ตลาดคริปโตช่วงนี้เผชิญแรงขายอย่างหนัก ส่งผลให้โดจคอยน์(DOGE) เข้าสู่ระดับความเสี่ยงอย่างชัดเจน โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ราคาของโดจคอยน์ร่วงลงกว่า *10% ภายในวันเดียว* และหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ระดับ 0.212 ดอลลาร์ (ประมาณ 295 บาท) สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุน
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดคริปโต CoinGlass ระบุว่า ในช่วงที่ตลาดร่วงอย่างหนักนี้ มีตำแหน่งเลเวอเรจที่ถูกล้าง (liquidation) รวมกว่า *751 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.04 หมื่นล้านบาท)* โดยเป็นตำแหน่ง Long ที่คาดว่าราคาจะขึ้นสูงถึง *706 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.8 พันล้านบาท)* คิดเป็น 94% ของจำนวนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าตลาดผิดหวังอย่างรุนแรงต่อทิศทางราคา
สาเหตุหนึ่งที่ถูกชี้ว่าเป็นแรงกดดันสำคัญคือ *ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐ* โดยดัชนี DXY ซึ่งติดตามมูลค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ปรับตัวขึ้นมากกว่า *3% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา* กระตุ้นให้เกิดการขายสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ คริปโตเคอร์เรนซี แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% แต่เพราะนักลงทุนบางส่วนคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ย จึงเกิดความผิดหวังและเร่งขายสินทรัพย์เสี่ยงในเวลาต่อมา
ราคาของโดจคอยน์ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ 0.248 ดอลลาร์ (ประมาณ 345 บาท) ลงมาอยู่ที่ระดับปัจจุบันราว 0.201 ดอลลาร์ (ประมาณ 280 บาท) ถือเป็นการปรับตัวลดลงราว *11% ในรอบสัปดาห์* และหากยังคงแนวโน้มขาลงเช่นนี้ จะนับเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันที่ราคาปิดเป็นลบ จุดสำคัญทางเทคนิคอยู่ที่ระดับ *0.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 278 บาท)* ซึ่งถูกมองว่าเป็นแนวรับสำคัญ หากหลุดระดับนี้ อาจมีการ *ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ 0.194 ดอลลาร์ (ประมาณ 270 บาท)*
อย่างไรก็ตาม หากตลาดเริ่มคืนความเชื่อมั่นและแนวโน้มเปลี่ยนเป็นขาขึ้น มีความเป็นไปได้ที่โดจคอยน์จะพยายามฟื้นกลับไปยืนที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ระดับ 0.212 ดอลลาร์อีกครั้ง ด้วยสัญญาณทางเทคนิคในกรอบเวลาสั้น ๆ ที่แสดงถึงภาวะ *ขายมากเกินไป* นักลงทุนบางส่วนเริ่มวางกลยุทธ์รับความเป็นไปได้ของการรีบาวด์ในระยะสั้น
การปรับฐานของโดจคอยน์ในครั้งนี้เป็นตัวสะท้อนความ *ผันผวนสูงของตลาดคริปโต* และทดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุนอีกครั้ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค เช่น การแข็งค่าของดอลลาร์และทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จึงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ตลาดจะสามารถ *สร้างแรงส่งเพื่อกลับตัว* ได้เมื่อใด ‘ความผันผวน’ ยังคงเป็นนิยามที่ดีที่สุดของสินทรัพย์ดิจิทัลในเวลานี้ ความเห็นหลายฝ่ายระบุ.
ความคิดเห็น 0