บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงแตะระดับ 114,013 ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการ *ชำระบัญชี* ตำแหน่งเลเวอเรจฝั่งขาขึ้นรวมมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 พันล้านบาท ส่งผลต่อ *ภาวะตื่นตระหนก* ในตลาดอนุพันธ์ และกระตุ้นให้กระแสความ *มองโลกในแง่ลบ* เริ่มแผ่ขยาย
ตลอดสามสัปดาห์ล่าสุด บิตคอยน์ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 120,000 ดอลลาร์ได้ ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่ม *สั่นคลอน* ขณะที่กระแสเงินทุนไหลออกจากกองทุน ETF แบบสปอต และการลดลงของค่าพรีเมียมในตลาดล่วงหน้า บ่งชี้ว่าบรรยากาศกำลังโน้มเอียงสู่ภาวะ *ขาลงแบบค่อยเป็นค่อยไป* อย่างไรก็ตาม ตลาดยัง *ไม่เต็มไปด้วยความกลัว* ในระดับรุนแรง
ในตลาดออปชั่น ยังไม่พบสัญญาณเทขายแบบชัดเจน แม้ว่าจะเกิดการปิดสถานะฝั่งซื้อ แต่จำนวนสัญญาที่เปิดอยู่ (Open Interest) ยังคงทรงตัว ขณะที่อัตราส่วนระหว่างคอลออปชั่นกับพุทออปชั่นยังคงอยู่ในจุดสมดุล สะท้อนว่าแม้ความผันผวนในระยะสั้นอาจ *เพิ่มสูงขึ้น* แต่ยังไม่ใช่ *สัญญาณแน่ชัดของตลาดหมี*
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นว่าการปรับฐานล่าสุดเป็นจุดจบของตลาดกระทิงครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งระบุว่า “แม้แนวต้านทางจิตวิทยาจะถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ยังไม่เห็นการทะลุแนวรับในทางเทคนิค” พร้อมเสริมว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียง *ช่วงปรับฐานตามธรรมชาติ* ของตลาด
ในขณะที่แรงขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นอดีตยังมีอยู่ แต่ยังมีหลายฝ่ายเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้นระยะยาวของบิตคอยน์ โดยเหตุผลหนึ่งคือแม้ปริมาณซื้อขาย ETF ลดน้อยลง แต่ *สัญญาณการถอนตัวของนักลงทุนสถาบันยังไม่เด่นชัด*
ขณะนี้ บิตคอยน์กำลังมองหาระดับแนวรับระยะสั้น และการกลับเข้ามาซื้อในช่วงราคานี้อาจเป็นตัวชี้วัดทิศทางของราคาในอนาคต นักลงทุนควรรักษาความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงทั้งความหวังเกินจริงและความหวาดกลัว พร้อม *รอการยืนยันสัญญาณของแนวโน้มถัดไปอย่างใกล้ชิด*
ความคิดเห็น 0