บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และริปเปิล(XRP) 3 สกุลเงินดิจิทัลหลัก ต่างเผชิญแรงขายพร้อมกัน หลังจากแนวโน้มขาขึ้นหยุดชะงัก สร้างความตึงเครียดให้กับนักลงทุนไม่น้อย โดยเฉพาะ ‘XRP’ ที่ราคาหลุดแนวรับจิตวิทยา 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท), อีเธอเรียมแกว่งตัวต่ำกว่าแนวต้านสำคัญ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 556,000 บาท) ส่วนบิตคอยน์ก็เริ่มลดความหวังที่จะพุ่งทะลุ 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 20.85 ล้านบาท)
XRP มีแนวโน้มร่วงต่อเนื่อง จากระดับสูงสุดของเดือนกรกฎาคมที่ 3.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,143 บาท) สู่ 2.92 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,059 บาท) ในช่วงเวลาอันสั้น ทำให้แนวรับสำคัญบริเวณ 3 ดอลลาร์ กลายเป็นแนวต้านไปโดยปริยาย ทั้งนี้ ราคากำลังเคลื่อนไปต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบชี้วัดแนวโน้ม(EMA) โดยที่ ‘ปริมาณการซื้อขายไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ’ สะท้อนว่ากำลังเผชิญแรงขาย แต่ไม่มีสัญญาณซื้อมาหนุนอย่างชัดเจน ความเคลื่อนไหวของดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์(RSI) ก็ลดลงสู่ระดับ 40 ปลายๆ บ่งชี้ *โมเมนตัมขาลง* และการขาดความมั่นใจจากฝั่งผู้ซื้อ
ระดับราคาที่น่าจับตาในระยะสั้นของ XRP อยู่ที่ช่วง 2.60~2.70 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,614~3,753 บาท) ซึ่งเคยเป็นแนวรับเก่าและยังเป็นที่ตั้งของ EMA 50 วัน หากไม่มีแรงซื้อเกิดขึ้นในบริเวณนี้ มีความเสี่ยงที่ราคาจะไถลลงไปแตะโซน 2.20~2.30 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,058~3,197 บาท) ได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า *การยึดติดกับราคาที่ผ่านมามากเกินไป* อาจเป็นอุปสรรคในการลงทุน ควรปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มเทคนิคใหม่ที่กำลังก่อตัว
สถานการณ์ของอีเธอเรียม(ETH) ก็ไม่ต่างกันมากนัก เมื่อ RSI เคยพุ่งแตะระดับ 78 ซึ่งเป็นระดับที่ถือว่า 'ร้อนแรงเกินไป' ก่อนจะลดลงเหลือ 61 ซึ่งหมายความว่าราคา ‘หลุดจากโซนซื้อมากเกินไป(overbought)’ และเสี่ยงต่อการปรับฐาน ขณะนี้ราคาซื้อขายอยู่ที่ราว 3,620 ดอลลาร์ (ประมาณ 503,000 บาท) ใกล้กับค่าเฉลี่ย EMA 26 วัน ที่ระดับ 3,480 ดอลลาร์ (ประมาณ 483,000 บาท) ซึ่งอาจทำหน้าที่เป็นแนวรับทางเทคนิค หากไม่สามารถประคองไว้ได้ มีโอกาสที่ ETH จะทดสอบแนวรับสำคัญถัดไปที่ EMA 50 วัน บริเวณ 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 417,000 บาท)
ด้านบิตคอยน์ แม้ก่อนหน้านี้พยายามเบรกผ่านระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.68 ล้านบาท) แต่สุดท้ายกลับปรับฐานลงสู่ 114,798 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.94 ล้านบาท) RSI ลดลงต่ำกว่าระดับ 60 สะท้อนว่า *โมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง* ปริมาณการซื้อก็ลดลงอย่างชัดเจน นักวิเคราะห์มองว่า BTC อาจพยายามดีดตัวจากแนวรับเทคนิค EMA 26 วัน บริเวณ 111,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.55 ล้านบาท) แต่หากล้มเหลว แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ EMA 50 วัน หรือราว 107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.87 ล้านบาท)
นอกจากปัจจัยด้านเทคนิคแล้ว ปัจจัยมหภาคก็มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงออกมาแข็งแกร่ง ประกอบกับแนวโน้ม ‘ดอลลาร์แข็งค่า’ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงส่งผลโดยตรงต่อ *ราคาและสภาพคล่องของตลาดคริปโต* ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงหาจุดสมดุลใหม่
สรุปแล้ว การที่คริปโตหลักต่างพร้อมใจกันหลุดแนวรับสำคัญในทางจิตวิทยา เป็นสัญญาณว่า ‘การฟื้นตัวอย่างยั่งยืน’ ยังไม่ใช่เรื่องที่รับประกันได้ สิ่งสำคัญในเวลานี้คือการเฝ้ามอง *การสร้างแนวรับใหม่* แทนที่จะตั้งความหวังเพียงแค่การกลับไปที่จุดสูงสุดเดิม
ความคิดเห็น 0