โคอินเบส(COIN) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการล่าสุดที่สร้างความประหลาดใจให้แก่วงการ เมื่อ ‘ริปเปิล(XRP)’ กลายเป็นคริปโตที่สร้างรายได้จากการซื้อขายสูงเป็นอันดับสองของแพลตฟอร์ม แซงหน้า ‘อีเธอเรียม(ETH)’ ได้สำเร็จ รายงานระบุว่าในไตรมาส 2 ปี 2025 XRP ทำรายได้คิดเป็น *13%* ของรายได้รวมจากการซื้อขาย สูงกว่าอีเธอเรียมซึ่งอยู่ที่ *12%* โดยมี ‘บิตคอยน์(BTC)’ ยังคงครองแชมป์ที่ *34%*
เมื่อแยกรายได้ทั้งหมดในไตรมาสดังกล่าว โคอินเบสมีรายได้รวมจากการซื้อขายที่ *764 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* หรือราว *1.06 หมื่นล้านบาท* โดย XRP ซึ่งเคยแทบไม่มีส่วนแบ่งตลาดในการซื้อขายเมื่อปี 2024 กลับสามารถเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และหากดูจากตัวเลขครึ่งปีแรกทั้งหมด XRP คิดเป็น *16%* ของรายได้จากการซื้อขาย ขณะที่ อีเธอเรียมอยู่ที่ *11%* ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางเติบโตของ XRP ที่มีความต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ชั่วคราว
เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นจากการที่โคอินเบสกลับมารองรับการซื้อขาย XRP อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2023 หลังการฟ้องร้องของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ต่อบริษัทริปเปิลในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายหลักทรัพย์เริ่มมีแนวโน้มเป็นประโยชน์ต่อฝั่งริปเปิล การกลับเข้าตลาดอย่างเป็นทางการของ XRP จึงได้รับความสนใจและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในวงกว้างอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน โคอินเบสยังเปิดเผยว่า บริษัทถือครองบิตคอยน์อยู่ประมาณ *1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* หรือราว *1.8 หมื่นล้านบาท* ส่งผลให้ติดอันดับหนึ่งในบริษัทที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลมากที่สุด ร่วมกับบริษัทอย่างเมตาแพลนเน็ต, ไลออตแพลตฟอร์มส์ และ MARA โฮลดิงส์ ส่วนการถือครองอีเธอเรียมอยู่ที่ราว *300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* และคริปโตอื่นๆ อีก *200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* โดยประมาณ
ในด้านของ ‘สเตเบิลคอยน์’ รายได้จากกลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานระบุว่ารายได้จากสเตเบิลคอยน์ของโคอินเบสเพิ่มขึ้น *44%* เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง *100 จุดพื้นฐาน (1%)* ตั้งแต่ต้นปี แต่อุปสงค์ในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำและรายได้แน่นอนยังคงสูงอยู่ *ความคิดเห็น: แสดงให้เห็นว่าสเตเบิลคอยน์เริ่มกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของแพลตฟอร์ม*
จากรายงานนี้ มีการวิเคราะห์ว่า การเติบโตของ XRP อาจปูทางไปสู่การกลับมาเป็น ‘สินทรัพย์กระแสหลัก’ อีกครั้งในตลาดคริปโต โดยเฉพาะเมื่อความเสี่ยงด้านกฎระเบียบเริ่มคลี่คลาย พร้อมกับตลาดรองรับที่กว้างขึ้น และมีแนวโน้มว่าความสนใจไปยังผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอย่าง ETF ที่อิง XRP อาจเพิ่มขึ้นตามลำดับในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0