ราคาของริปเปิล(XRP) เพิ่งทะลุระดับ 3.6 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,004 วอน) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม บางกลุ่มนักลงทุนกลับแสดง ‘ความกังวล’ ต่อสัญญาณการกลับตัวลงของราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ *สื่อกระแสหลักให้การประเมินในเชิงบวกอย่างไม่คาดคิด* ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่าอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด ‘แนวโน้มขาลง’ แทน
ริปเปิล(XRP) ฟื้นตัวอย่างร้อนแรงหลังการเลือกตั้งสหรัฐ โดยมีมูลค่าสูงขึ้นกว่า 500% ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ‘การผ่อนปรนด้านกฎระเบียบ’ ประกอบกับ *การชนะการเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์* เป็นปัจจัยทางการเมืองที่หนุนการพุ่งขึ้นของราคา ในช่วงเดียวกันนี้ หนังสือพิมพ์ USA Today ยังได้เผยแพร่บทความยกย่องริปเปิลว่าเป็น *โทเคนที่มีอรรถประโยชน์ในเศรษฐกิจจริง* และเอาชนะความผันผวนที่เคยเหมือนมีมคอยน์ในอดีต
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวกลับสร้างความ ‘คลางแคลงใจ’ ให้กับนักลงทุนบางราย โดยเฉพาะจากคำที่ระบุว่า “ริปเปิลไม่ใช่มีมคอยน์อีกต่อไปแล้ว” ในขณะที่หลายฝ่ายชี้ว่า *โปรเจกต์ริปเปิลถูกพัฒนามาเพื่อการโอนเงินข้ามพรมแดนตั้งแต่แรก* ไม่เคยถูกจัดอยู่ในกลุ่มมีมคอยน์ จึงมองว่าบทความนี้ ‘เหมารวม’ อย่างไม่เหมาะสม
ประเด็นอีกด้านที่ตามมาคือการอ้างอิงถึง The Motley Fool ผู้ให้ข้อมูลการลงทุนที่รู้จักกันดี ซึ่งไม่จัดริปเปิลเป็นหุ้น และไม่ได้รวมไว้ในรายชื่อการแนะนำการลงทุน ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อ ‘ความหมายที่แท้จริง’ ของการกล่าวถึงในบทความ
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังเตือนว่า การรายงานเชิงบวกจากสื่อหลักอาจเป็น ‘สัญญาณกลับตัวลง’ ได้เช่นกัน โดยมีกรณีศึกษาในอดีต เช่น การที่จิม เครเมอร์(Jim Cramer) เคยให้ความเห็นเชิงบวกต่อตลาดคริปโต แต่ราคากลับร่วงลงในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันในปี 2018 เมื่อมีข่าวว่าบิตคอยน์ ‘ตายแล้ว’ ราคากลับพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่หลายรอบ
จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ ‘ความระมัดระวัง’ ต่อแนวโน้มของริปเปิลในช่วงเวลานี้ยิ่งทวีความสำคัญขึ้น ข้อมูลเจาะลึกเพิ่มเติมและบทวิเคราะห์ภายหลังสามารถติดตามได้จากรายงาน AI วิเคราะห์เฉพาะทาง
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ในภาวะที่มุมมองต่อริปเปิลดูสดใสแต่ก็แฝงไปด้วยความไม่แน่นอน *ตอนนี้คือช่วงเวลาที่นักลงทุนควรตัดสินใจอย่างรอบคอบที่สุด*
ความคิดเห็น 0