Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ทรัมป์ไฟเขียวกองทุนเกษียณ 401(k) สหรัฐฯ ลงทุนคริปโต หนุนสินทรัพย์ดิจิทัลสู่การเงินกระแสหลัก

ทรัมป์ไฟเขียวกองทุนเกษียณ 401(k) สหรัฐฯ ลงทุนคริปโต หนุนสินทรัพย์ดิจิทัลสู่การเงินกระแสหลัก / Tokenpost

ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร เปิดทางให้ ‘ตลาดกองทุนเกษียณ 401(k)’ มูลค่า 4,015 ล้านล้านวอน (ประมาณ 12.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของสหรัฐฯ สามารถลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น *คริปโตเคอร์เรนซี* และ *กองทุนรวมภาคเอกชน* ได้แล้ว ส่งผลให้สินทรัพย์ดิจิทัลเข้าใกล้ระบบการเงินกระแสหลักมากยิ่งขึ้น

คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ต้องทบทวนมาตรฐานความไว้วางใจในการบริหารกองทุนภายใต้กฎหมาย ‘ERISA’ หรือ *กฎหมายคุ้มครองรายได้จากการเกษียณอายุของลูกจ้าง* พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) และกระทรวงการคลัง เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนของกองทุน 401(k) ที่เดิมทีเน้นการลงทุนในหุ้นและพันธบัตร มาเป็นการเปิดรับ ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ มากขึ้น โดยเฉพาะ *คริปโตเคอร์เรนซี* ซึ่งเคยมีข้อจำกัดเรื่องความสามารถในการลงทุน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเข้าถึงตลาดการเงินแบบสถาบัน

แนวทางนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ *นโยบายส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัล* ที่ทรัมป์ผลักดันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้จัดตั้ง ‘ทุนสำรองบิตคอยน์แห่งชาติ’ และลงนามในกฎหมาย GENIUS เพื่อควบคุม *สเตเบิลคอยน์* อย่างเป็นทางการ พร้อมแต่งตั้ง *เดวิด แซกส์* นักลงทุนด้านนวัตกรรม ขึ้นบริหารนโยบายคริปโตและปัญญาประดิษฐ์ในระดับชาติ ถือเป็นการจัดระเบียบ *ยุทธศาสตร์นวัตกรรมทางการเงิน* ภายใต้แนวทางของรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม กระทรวงแรงงานได้เพิกถอนคำแนะนำปี 2022 ที่เตือนให้หลีกเลี่ยงคริปโตในพอร์ตเกษียณ โดยคำแนะนำเดิมนั้นระบุให้แยกสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากสินทรัพย์อื่นอย่างชัดเจน แต่ตามเกณฑ์ใหม่ การประเมินความน่าไว้ใจของทรัสตีต้องใช้มาตรฐานเดียวกันสำหรับสินทรัพย์ทุกประเภท *ทำให้คริปโตฯ สามารถถูกจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไว้วางใจได้เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่นๆ*

คำสั่งใหม่ของทรัมป์คาดว่าจะเปิดโอกาสให้ *ผู้ถือครองกองทุนเกษียณกว่า 9 แสนราย* เข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์เช่น กองทุนภาคเอกชน, เวนเจอร์แคปิทัล และคริปโตเคอร์เรนซี ได้โดยตรง สอดคล้องกับกระแสโลกที่ยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น และช่วยให้ *นักลงทุนรายย่อย* มีช่องทางตามทันเทรนด์การจัดพอร์ตระดับโลกมากขึ้นด้วย

นโยบายนี้เคยถูกเสนอในสมัยทรัมป์เมื่อปี 2020 โดยกระทรวงแรงงานขณะนั้นอนุญาตให้รวมกองทุนภาคเอกชนเข้ากับพอร์ต 401(k) ได้ แต่ถูกรัฐบาลไบเดนเพิกถอนในภายหลัง และครั้งนี้ถือเป็นการ ‘ฟื้นคืนชีพ’ ภายใต้กฎใหม่ที่เน้นการ *ควบคุมความรับผิดชอบผ่านการกำกับดูแลและการเปิดเผยข้อมูล* เพื่อแก้ปัญหาสินทรัพย์ที่ไม่สภาพคล่อง

บริษัทรายใหญ่ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากคำสั่งดังกล่าว ได้แก่ *แบล็กสโตน, อพอลโล และ KKR* ซึ่งต่างลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและดำเนินการล็อบบี้มาอย่างต่อเนื่องเพื่อ *เชื่อมโยงตลาดสินทรัพย์ส่วนตัวเข้ากับตลาดกองทุนเกษียณ*

อย่างไรก็ตาม มีบางเสียงแสดงความกังวลว่า สินทรัพย์ทางเลือกที่ซับซ้อนอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักลงทุนที่ไม่มีความรู้ด้านการเงินมากนัก แต่รัฐบาลทรัมป์ได้เน้นย้ำว่า ต้องสร้าง *ดุลยภาพระหว่างโอกาสและการคุ้มครองผู้ลงทุน* ด้วยมาตรฐานที่เน้นความรอบรู้ของทรัสตี มากกว่าจะจำกัดสินทรัพย์

แม้จะต้องมีการจัดทำแนวทางเพิ่มเติมโดยหน่วยงานกำกับดูแลอย่างกระทรวงแรงงานและ SEC แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า คำสั่งฝ่ายบริหารครั้งนี้ได้กลายเป็น ‘*จุดเปลี่ยนสำคัญ*’ ที่ส่งผลให้ *คริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ทางเลือก* มีโอกาสปักหลักในระบบกองทุนเกษียณของสหรัฐฯ ได้อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังสะท้อนว่า *การบูรณาการสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่โครงสร้างทางการเงินของสหรัฐฯ เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังแล้ว*

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1