‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ เดินเกมใหญ่ในตลาดคริปโตอีกครั้ง เมื่อกลุ่มที่เกี่ยวโยงกับเขาโดยตรงอย่างบริษัทไฟแนนซ์ชื่อ *เวิลด์ลิเบอร์ตี้ไฟแนนเชียล(World Liberty Financial)* ประกาศลงทุนมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 139 ล้านบาท) ในโครงการสเตเบิลคอยน์ของสหรัฐ ‘ฟัลคอน USDf(Falcon USDf)’ ซึ่งถือเป็นการกระโดดเข้าสู่ตลาดสเตเบิลคอยน์อย่างชัดเจน
เวิลด์ลิเบอร์ตี้ไฟแนนเชียล ก่อตั้งโดยกลุ่มบุคคลใกล้ชิด *ทรัมป์* โดยมีเป้าหมายสนับสนุนแนวทางที่เป็น ‘มิตรต่อคริปโต’ มากขึ้น โดย *ฟัลคอน USDf* เป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและตรวจสอบได้ ทั้งยังถูกมองว่าเป็นโครงการที่ร่วมผลักดันวิสัยทัศน์ของทรัมป์ในการพัฒนา ‘ดิจิทัลดอลลาร์ทางเลือกที่ปลอดภัย’
ไม่เพียงมิติเศรษฐกิจ *การลงทุนในสเตเบิลคอยน์นี้ยังพัวพันกับบริบททางการเมืองภายในสหรัฐเช่นกัน* ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา *ทรัมป์* ได้แสดงจุดยืนสนับสนุน ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ และ ‘เหมืองคริปโต’ ในหลายเวที ทั้งในสุนทรพจน์และแถลงการณ์ ล่าสุด ถึงขั้นเปิดรับเงินบริจาคสำหรับการหาเสียงผ่านคริปโตอย่างเป็นทางการ ยิ่งตอกย้ำท่าทีพักข้างคริปโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ขั้นต่อไปของเกมจึงดูเหมือนจะมี *ฟัลคอน USDf* เป็นหมากสำคัญที่ใช้ตอบโจทย์นโยบายทางเศรษฐกิจของพรรครีพับลิกัน โดยเหรียญนี้ใช้กลไกเสถียรภาพจากพันธบัตรและระบบของธนาคารกลางสหรัฐ แต่ไม่ได้เป็นของรัฐ จึงแตกต่างจาก *เทเธอร์(USDT)* และ *USD คอยน์(USDC)* อย่างชัดเจน ความ ‘กึ่งทางการ’ นี้ทำให้มันถูกจับตามองจากนักลงทุนทั้งฝั่งอนุรักษนิยมและนวัตกรรม
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญก็ช่วยขับเน้นความสำคัญของดีลนี้มากขึ้น *อี จองแท* ผู้อำนวยการจากบริษัทที่ปรึกษาบล็อกเชน *Block Elements* ระบุว่า “การลงทุนในสเตเบิลคอยน์จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธาธิบดีนั้น ถือเป็นกรณีศึกษาหายาก และอาจทำให้วงการคริปโตถูกดึงเข้าสู่กระแสการเมืองอย่างเต็มตัว”
ในภาพใหญ่ การเข้าสู่ตลาดสเตเบิลคอยน์ของฝั่งทรัมป์ครั้งนี้ อาจหมายถึงการ ‘ขยับหมาก’ เพื่อครอบงำทั้งพื้นที่ ‘การเงินดิจิทัล’ พร้อมกำหนดวาทกรรมด้านเทคโนโลยีนโยบายของประเทศ *ความคิดเห็น* คือ นี่อาจเป็นการบุกตลาดคริปโตที่ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่สะท้อนแผนยุทธศาสตร์ทางการเมืองอย่างแยบยล ท่ามกลางการจับตาของนักลงทุนและภาคส่วนทั่วโลกถึงผลกระทบที่จะตามมาในศึกเลือกตั้งสหรัฐครั้งถัดไป
ความคิดเห็น 0