เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) กลุ่มงานเฉพาะกิจด้านนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ได้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการต่อหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ โดยเรียกร้องให้มีการชี้แจงข้อบังคับด้านการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐบาลกลางอย่างชัดเจน ข้อเสนอดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่กว้างขึ้นในการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินบนบล็อกเชน โดยเกิดขึ้นควบคู่กับการผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตจำนวน *สามฉบับ* ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อไม่นานมานี้ และสะท้อนจุดยืนของทำเนียบขาวที่มีต่อเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างชัดเจน
กลุ่มเฉพาะกิจนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารของ *ทรัมป์* โดยมี *เดวิด แซคส์(David Sacks)* นักลงทุนจากซิลิคอนแวลลีย์เป็นหัวหน้า กลุ่มได้เสนอให้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) และ คณะกรรมการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(CFTC) ดำเนินการเร่งรัดการออกแนวทางเกี่ยวกับการ *อนุมัติการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับชาติ* ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับฝาก, การซื้อขาย, การจดทะเบียน และการจัดการข้อมูล
ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่กลุ่มได้ชี้ให้เห็น คือ *ความล่าช้าทางราชการ* ซึ่งมักเป็นอุปสรรคต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ พร้อมกันนี้ยังมีข้อเสนอเชิงภาษีที่เรียกร้องให้มีการ *ยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นกลุ่มสินทรัพย์ใหม่* และปรับปรุงกฎหมายภาษีในลักษณะที่เหมาะสมแทนที่การใช้กฎหมายเดิมที่มุ่งเน้นไปยังหลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์แต่เพียงอย่างเดียว
กลุ่มเฉพาะกิจของทำเนียบขาวมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาเชิงนโยบายในหัวข้อต่าง ๆ เช่น บล็อกเชน, สเตเบิลคอยน์, โครงสร้างตลาด, ระบบภาษี, การดูแลทรัพย์สิน และการกำกับดูแล ซึ่งแนวคำแนะนำของพวกเขาหลายประการถูกนำไปใช้ใน *ร่างกฎหมาย GENIUS, CLARITY และร่างกฎหมายจำกัดการใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)* ที่ได้รับการรับรองจากสภาคองเกรสเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กฎหมายเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่กฎเกณฑ์เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ โครงสร้างตลาด ไปจนถึงข้อจำกัดในการออก CBDC
*ทรัมป์* ได้ลงนามให้ร่าง *GENIUS* เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ขณะที่ CLARITY และร่างจำกัด CBDC ได้ผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยมีกำหนดการพิจารณาในวุฒิสภาหลังการปิดสมัยประชุมในเดือนสิงหาคม การนำเสนอข้อเสนอของกลุ่มเฉพาะกิจในครั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการ *ขับเคลื่อนเศรษฐกิจบล็อกเชน* อย่างจริงจัง
**ความคิดเห็น**: จุดยืนที่ชัดเจนของทรัมป์ต่อคริปโต กำลังส่งสัญญาณว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแห่งชาติในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0