ตลาดการเงินของสหรัฐฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจาก *ทรัมป์* ส่งสัญญาณชัดเจนว่า *เจอโรม พาวเวล* ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจต้องลงจากตำแหน่งในเร็วๆ นี้ ขณะที่โลกการเงินจับตามองการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อทิศทางของ *ดอกเบี้ย* และตลาด *คริปโต*
ระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อไม่นานมานี้ *ทรัมป์* ให้สัมภาษณ์ถึงประธานพาวเวลว่า “ถ้าเขาฉลาดจริง เขาควรลดดอกเบี้ยไปตั้งนานแล้ว” ก่อนจะย้ำว่า “เขากำลังจะไป และผมรู้สึกเสียดาย” คำพูดนี้สร้างแรงสะเทือนในระดับที่ไม่น่าใช่แค่เกมทางการเมือง แต่เป็นไปได้ว่าเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลขึ้นแล้วจริงๆ
ฝั่งของพาวเวล ยังคงยืนยันจะรักษานโยบาย *ดอกเบี้ยสูง* ต่อไป เพราะเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ *ทรัมป์กลับมองต่าง* โดยชี้ว่าขณะนี้ภาคอสังหาฯ และเศรษฐกิจจริงกำลังถูกกดดันอย่างหนัก พร้อมให้ข้อมูลว่า “หากลดดอกเบี้ยลงมา 3 จุดอัตราร้อยละ สหรัฐฯ จะประหยัดได้ถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 2,085 ล้านล้านวอน)” รวมทั้งยกตัวอย่างว่ายุโรปจำนวนมากได้ลดดอกเบี้ยไปแล้วกว่า 10 ครั้ง
แม้ภายใน Fed จะยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะลดดอกเบี้ย แต่เมื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้าใกล้ขึ้นทุกที ปฏิเสธไม่ได้ว่าแรงกดดันทางการเมืองจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยหลายฝ่ายมองว่าถ้อยคำของ *ทรัมป์* ไม่ใช่แค่คำพูดโจมตีธรรมดา หากแต่แฝงนัยทางนโยบายและการจัดวางบุคคลในรัฐบาลถัดไปด้วย
ส่วนการประชุมในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ไม่เพียงแต่สำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเป็น ‘จุดเปลี่ยนที่สำคัญ’ สำหรับ *ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* ด้วย เพราะในกรณีที่ Fed ตัดสินใจคงดอกเบี้ย ค่าเงิน *ดอลลาร์* ก็อาจแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งจะกดดันราคา *บิตคอยน์(BTC)* รวมถึง *สินทรัพย์ดิจิทัล* อื่นๆ ให้มีแนวโน้มลดลง
ขณะนี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองว่า *คำพูดของทรัมป์* รอบนี้จะจบลงด้วยการเปลี่ยนตัวประธาน Fed จริงๆ หรือจะเป็นแค่กลยุทธ์กดดันแบบเดิมเพื่อทำให้ Fed เปลี่ยนนโยบาย แต่ไม่ว่าจะจบอย่างไร เหตุการณ์นี้ก็สะท้อนอิทธิพลของทรัมป์ที่ยังสามารถสั่นคลอน *ตลาดการเงินโลก* ได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0