แอปพลิเคชันหลักของคอยน์เบส(Coinbase) ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ ด้วยการผสานฟังก์ชันการเทรดผ่านตลาดแบบไร้ศูนย์กลาง(DEX) เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงโลกการเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi) ได้ง่ายยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ช่วยเปิดประตูสู่ ‘เศรษฐกิจออนเชน’ ด้วยการให้ผู้ใช้ซื้อขายโทเคนใหม่ที่หลากหลายยิ่งกว่าทรัพย์สินดิจิทัลเดิมกว่า 300 รายการที่มีอยู่
คุณสมบัติดังกล่าวเริ่มเปิดให้บริการแล้วในบางพื้นที่ของสหรัฐ ยกเว้นรัฐนิวยอร์ก โดยเน้นหนักที่เครือข่าย ‘เบส(Base)’ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายโทเคนที่เพิ่งเปิดตัวได้ ‘ภายในไม่กี่นาทีหลังจากเปิดตัว’ ปฏิบัติการทั้งหมดดำเนินการผ่านโปรโตคอล DEX ชั้นนำอย่างแอร์โรดโดรม(Aerodrome) และยูนิสวอป(Uniswap) พร้อมกลไกแสดง ‘ราคาที่ดีที่สุด’ ผ่านระบบรวมสภาพคล่องที่มีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ คอยน์เบสยังยอมรับภาระ ‘ค่าธรรมเนียมเครือข่าย’ เองโดยไม่ผลักภาระให้ผู้ใช้งาน โอนเงินเข้าได้จากยอด USD คอยน์(USDC) หรือบัญชีคอยน์เบสโดยตรง
คอยน์เบสกล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแค่พัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง แต่ยังเป็นการ ‘ลดกำแพง’ สำหรับโครงการใหม่ๆ ที่ต้องการเข้าสู่ตลาด จากเดิมที่ต้องรอการจดทะเบียนในตลาดรวมศูนย์(CEX) ตอนนี้โทเคนที่ออกบนเครือข่ายเบสสามารถเข้าถึง ‘ผู้ใช้งาน DEX หลายล้านคนได้ภายในประมาณ 1 ชั่วโมง’ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่พอสมควร
ในการเปิดให้บริการครั้งแรก มีโปรเจกต์จำนวนมากเข้าร่วม อาทิ เวอร์ชวลส์ โปรโตคอล(Virtuals Protocol), ซูเปอร์แชมพ์ส(Super Champs) และ โออูคีแล็บส์(Ouki Labs) ซึ่งโทเคนเหล่านี้ถูกนำเข้าสู่ระบบและพร้อมให้ซื้อขายทันทีหลังเปิดตัว อีกด้านหนึ่ง เครือข่ายเบสสร้างผลงานน่าทึ่งในเดือนกรกฎาคม ด้วยปริมาณการซื้อขายแบบ DEX ที่แตะ 41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 56.9 ล้านล้านวอน เกาะอยู่ในอันดับ 4 ของโลกสำหรับเทรดจุดแบบไร้ศูนย์กลาง
ในอนาคต คอยน์เบสยังมีแผนรองรับบล็อกเชนอื่นๆ เช่น โซลานา(Solana) และจะเพิ่มระบบตรวจสอบที่ช่วย ‘คัดกรองโทเคนลวงหรืออันตราย’ จากภายนอกก่อนเข้าสู่แพลตฟอร์ม เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ระดับสูงสุด
เจสซี พอลแล็ก(Jesse Pollak) ผู้ออกแบบเครือข่ายเบส ระบุว่า “เกมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องใครจะลิสต์โทเคนได้ก่อนอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันที่จะแสดงให้เห็นว่าใครสามารถส่งมอบ ‘คุณค่าที่แท้จริงให้ผู้บริโภค’ ได้มากกว่า” เขายังกล่าวเสริมว่า คอยน์เบสกำลังสร้าง ‘ความเท่าเทียมในการเข้าถึงอย่างแท้จริง’
การรวมฟังก์ชัน DEX ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แต่ยังเป็น ‘สัญญาณเชิงกลยุทธ์’ ที่แสดงให้เห็นว่าคอยน์เบสต้องการลบเส้นแบ่งระหว่างระบบรวมศูนย์และไร้ศูนย์กลาง พร้อมกับดันระบบ ‘ออนเชน’ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางกระแสโลกที่ตลาดเทรดคริปโตเปลี่ยนไปสู่ความเป็นอัตโนมัติเต็มรูปแบบ การแข่งขันของกระดานเทรดโลกเพื่อผนวก DEX เข้าสู่ระบบหลักยังคงเดินต่อไปแบบไม่มีทีท่าจะชะลอ
ความคิดเห็น 0