ความหวังว่าอีเธอเรียม(ETH) จะพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ภายในเดือนสิงหาคม เริ่มลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว จากความน่าจะเป็น 64% เหลือเพียง 26% ภายในเวลาไม่กี่วัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นของตลาดหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มคาดการณ์ ‘โพลิมาร์เก็ต(Polymarket)’ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงเชื่อว่าอีเธอเรียมมีโอกาสสูงถึง 64% ที่จะทะลุ 5,000 ดอลลาร์ แต่เมื่อถึงวันที่ 18 ความเชื่อนั้นลดลงเหลือเพียง 26% สาเหตุหลักคือราคาที่ร่วงลงหลายร้อยดอลลาร์ในวันเดียว สู่ระดับ 4,335 ดอลลาร์(ประมาณ 6.03 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนความผันผวนของตลาดอย่างชัดเจน
การคาดว่า ETH จะไปถึง 4,800 ดอลลาร์(ประมาณ 6.67 ล้านบาท) ก็ลดลงจาก 90% เหลือ 47% อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเดิมพันว่า ETH จะแตะ 4,500 ดอลลาร์(ประมาณ 6.25 ล้านบาท) ภายในสองวันข้างหน้าด้วยโอกาส 74% แพลตฟอร์มคาดการณ์อีกแห่งหนึ่งอย่าง ‘คัลชิ(Kalshi)’ ก็เผยว่าสัดส่วนของนักลงทุนที่เชื่อว่า ETH จะทำ ‘นิวไฮ’ ก่อนเดือนกันยายน ลดลงจาก 91% เหลือเพียง 27%
ความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงนี้ เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐประกาศดัชนี PPI เมื่อวันที่ 16 ซึ่งตัวเลขสูงกว่าการคาดการณ์ ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกถูกกดดันแรงเทขาย อีเธอเรียมที่เคยแตะระดับสูงสุดที่ 4,776 ดอลลาร์(ประมาณ 6.63 ล้านบาท) ก็เริ่มปรับฐานตามไปด้วย
แม้ภายใต้แรงกดดันดังกล่าว เทรนด์โดยรวมของ ETH ยังเป็นบวก โดยในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับเพิ่มขึ้น 1.4% และมากกว่า 20% ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ อีเธอเรียมยังแสดงผลงานเหนือกว่า บิตคอยน์(BTC) ในช่วงเดียวกัน โดยอัตราส่วน ETH/BTC พุ่งทะลุเส้นค่าเฉลี่ยรายปี ถือเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น
การไหลเข้าของเงินทุนจากสถาบันก็ยังไม่หยุดยั้ง ตามการเปิดเผยของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน แซนติเมนต์(Santiment) เมื่อเร็ว ๆ นี้ กว่า 28,000 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 3.89 แสนล้านบาท) ถูกอัดฉีดเข้าสู่อีเธอเรียมผ่านกองทุน ETF ภายในเวลา 5 วันทำการ ขณะที่บริษัทอย่าง ชาร์ปลิงค์(SharpLink) ก็ถือครองทรัพย์สิน ETH มูลค่าถึง 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์(ประมาณ 2.29 แสนล้านบาท)
กระนั้นก็ตาม การที่มีอีเธอเรียมไหลเข้าสู่กระดานเทรดมากขึ้น รวมถึงปริมาณการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สที่สูง ยังเป็นสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงการเตรียมขายเพื่อล็อกกำไร โดยระดับราคาที่มีคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop loss) สะสมอยู่มากคือช่วง 4,200 ดอลลาร์ และ 4,800 ดอลลาร์ ทำให้ราคามีโอกาสสวิงได้ทั้งขึ้นและลง
เมื่อเปรียบเทียบกับบิตคอยน์ที่เพิ่งทำสถิติใหม่เหนือ 124,000 ดอลลาร์(ประมาณ 17.2 ล้านบาท) เมื่อต้นเดือน อีเธอเรียมยังไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ในปี 2021 ที่ 4,878 ดอลลาร์(ประมาณ 6.78 ล้านบาท) คงเหลือความหวังสำหรับขาขึ้นต่อในสายตาของนักเทรดบางกลุ่ม และอาจถือเป็น ‘โอกาสซื้อ’ สำหรับผู้ที่มองว่า ETH ยัง ‘ต่ำกว่ามูลค่า’
ในช่วงที่ความเชื่อมั่นเริ่มสั่นคลอนอย่างรวดเร็ว การประกาศข่าวเกี่ยวกับ *สปอต ETF* หรือแนวโน้ม *อีเธอเรียมขาขึ้น* อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การฟื้นตัวในรอบถัดไป ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0