เชรอด บราวน์ อดีตวุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอ ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสภาสหรัฐฯ อีกครั้งในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2026 นับเป็นการหวนคืนสู่เวทีการเมืองอย่างไม่คาดคิด หลังจากพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2024 ให้แก่ เบอร์นี โมเรโน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งได้รับแรงหนุนจาก ‘อุตสาหกรรมคริปโต’ อย่างเต็มตัว บราวน์ระบุว่าเป้าหมายครั้งนี้คือการช่วงชิงที่นั่งของ จอห์น ฮิวสติด วุฒิสมาชิกรีพับลิกันคนปัจจุบัน
การประกาศลงสมัครของบราวน์มีขึ้นผ่านข้อความในแพลตฟอร์ม X (เดิมทวิตเตอร์) โดยเขาระบุว่า “ไม่เคยคิดจะกลับมาเล่นการเมืองอีก แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในวอชิงตันทำให้ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป” พร้อมย้ำว่าโครงสร้างการเมืองปัจจุบันกลายเป็นรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์ให้ ‘ผู้มั่งคั่งและผู้มีอำนาจ’ และเขาคือคนที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้
บราวน์เคยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกจากโอไฮโอมาตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2025 และเป็นบุคคลสำคัญในการผลักดัน *การกำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซี* โดยเฉพาะในบทบาทประธานคณะกรรมาธิการธนาคารวุฒิสภา หลังจากกรณีล่มสลายของ เอฟทีเอ็กซ์(FTX) เมื่อปี 2022 บราวน์ผลักดันแนวทางการออกกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างครอบคลุม ซึ่งมีทั้งเสียงชื่นชมและวิพากษ์จากผู้เล่นในตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และโครงการอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ของบราวน์ในการเลือกตั้งปี 2024 มีปัจจัยสำคัญมาจากการสนับสนุนทางการเงินของอุตสาหกรรมคริปโตโดยตรง กลุ่มสนับสนุน ‘Defend American Jobs’ ที่เชื่อมโยงกับ Coinbase และริปเปิล(XRP) ภายใต้เครือข่าย Fairshake ทุ่มเงินมากกว่า 40 ล้านดอลลาร์ (ราว 556 พันล้านวอน) เพื่อสนับสนุนผู้สมัครรีพับลิกันอย่าง โมเรโน ซึ่งสามารถคว้าชัยด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 46%
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก ‘Stand With Crypto’ กลุ่มล็อบบี้ภายใต้ Coinbase ระบุว่า ในการเลือกตั้งปี 2024 มี *สมาชิกรัฐสภาที่มีจุดยืนหนุนคริปโต* อย่างน้อย 270 คน ได้รับเลือกตั้งหรือผ่านการเลือกตั้งซ้ำ นอกจากนี้ กลุ่ม PAC ภายใต้ Fairshake ใช้งบรวมกันถึง 131 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,821 พันล้านวอน) โดยแบ่งเป้าหมายชัดเจน – ‘Protect Progress’ สนับสนุนสายเดโมแครต ส่วน ‘Defend American Jobs’ เน้นไปที่ผู้สมัครรีพับลิกัน
ทั้งนี้ การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกโอไฮโอปี 2024 ยังถูกบันทึกว่ามีการใช้เงินสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยยอดรวมจากทั้งสองฝ่ายสูงถึง 480 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,672 พันล้านวอน) ซึ่งสะท้อนว่า *สงครามอิทธิพลด้านการเงินในสนามการเมืองสหรัฐฯ* กำลังทวีความรุนแรง และกลุ่มคริปโตกำลังเข้ามามีบทบาทอย่างชัดเจน
ในมุมมองของนักวิเคราะห์การเมือง แม้พรรครีพับลิกันจะยังมีแนวโน้มครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาหลังปี 2026 แต่การกลับมาของบราวน์อาจบ่งชี้ถึง *กระแสความไม่พอใจต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน* ในหมู่ประชาชนบางส่วน พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอุตสาหกรรมคริปโตกับการเมืองสหรัฐฯ จะยังเป็นประเด็นร้อนในเวทีนโยบายต่อไป
ความคิดเห็น 0