บริษัท ‘สแตรทิจี’ ประกาศออก ‘หุ้นกู้แปลงสภาพ’ มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสะสมสินทรัพย์ในระยะยาว โดยการเสนอขายครั้งนี้จะจำกัดเฉพาะนักลงทุนสถาบัน
ตามประกาศอย่างเป็นทางการ หุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวจะมีอัตราดอกเบี้ย 0% และครบกำหนดในวันที่ 1 มีนาคม 2030 นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นกู้ได้ในหน่วยละ 1,000 ดอลลาร์ และมีสิทธิ์แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญคลาส A ของบริษัทในอัตรา 2.3072 หุ้นต่อหน่วย ในราคาหุ้นละ 433.43 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็น ‘พรีเมียม’ 35% จากราคาตลาดปัจจุบัน
นอกจากนี้ บริษัทยังให้สิทธิ์ออกหุ้นกู้เพิ่มเติมอีก 300 ล้านดอลลาร์ ภายใน 5 วันทำการ หลังจากการเสนอขายรอบแรกเสร็จสิ้น บริษัทที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อจาก ‘ไมโครสแตรทิจี’ เป็น ‘สแตรทิจี’ ยังคงดำเนินนโยบายการสะสมบิตคอยน์อย่างแข็งขัน ทำให้ได้รับความสนใจจากตลาด
หลังการเปลี่ยนชื่อ ‘แบล็คร็อก’ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเป็น 5% ส่งผลให้ราคาหุ้นของ ‘สแตรทิจี’ ปรับตัวขึ้น 2.8% เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ขณะที่ล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่ม 7,633 BTC เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ทำให้ยอดถือครองรวมอยู่ที่ 478,740 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 46.4 พันล้านดอลลาร์ โดยบริษัทมี ‘กำไรที่ยังไม่รับรู้’ จากการถือครองบิตคอยน์ราว 15 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนักลงทุนเอกชนแล้ว ยังมีรัฐบาลของ 12 รัฐในสหรัฐฯ ที่ถือหุ้นของบริษัทเป็นมูลค่ารวม 330 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา วิสคอนซิน และนอร์ทแคโรไลนา ที่มีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทอีกด้วย
ตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2024 ‘สแตรทิจี’ ได้ซื้อบิตคอยน์เพิ่ม 218,887 BTC ซึ่งถือเป็นระดับการสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลที่สูงเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม การลงทุนเชิงรุกนี้ทำให้บริษัทบันทึก ‘ผลขาดทุนสุทธิ’ 670 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียว
ทั้งนี้ วงการคริปโตกำลังจับตามองว่ากลยุทธ์การลงทุนในบิตคอยน์ของ ‘สแตรทิจี’ จะส่งผลต่อมูลค่าของบริษัทอย่างไรในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดยังคงมีความผันผวนสูง
ความคิดเห็น 0