Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) บนงบดุลบริษัทพุ่งไม่หยุด แต่ข้อกังวล 'โปร่งใส-ตรวจสอบได้' ยังตามหลอกหลอน

บิตคอยน์(BTC) บนงบดุลบริษัทพุ่งไม่หยุด แต่ข้อกังวล 'โปร่งใส-ตรวจสอบได้' ยังตามหลอกหลอน / Tokenpost

ผลการวิจัยล่าสุดของโคอินอีซ(CoinEasy) ชี้ว่าแนวโน้มที่บริษัทจดทะเบียนทยอยนำ *บิตคอยน์(BTC)* เข้าสู่บัญชีงบดุลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมาพร้อมกับข้อกังวลเรื่อง ‘ความโปร่งใสในการยืนยันการถือครองจริง’ ที่กลายเป็นประเด็นสำคัญด้านการลงทุนในขณะนี้ โดยข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองของบริษัทต่างๆ ยังพึ่งพา *ความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร* และระบบควบคุมภายในเท่านั้น จนนำไปสู่ข้อถกเถียงว่าควรเปิดเผย ‘ที่อยู่กระเป๋าเงินดิจิทัล’ ต่อสาธารณะหรือไม่

การถือครอง *บิตคอยน์* โดยบริษัทอย่าง *ไมโครสเตรทิจี(MicroStrategy)*, *เมตาแพลนเน็ต(MetaPlanet)*, *Rumble*, *เกมสต็อป(GameStop)* และ *เทสลา(TSLA)* ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม โคอินอีซรายงานว่า ข้อมูลว่าบริษัทเหล่านี้เก็บบิตคอยน์ไว้ที่ไหนและอย่างไรนั้น ไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยผู้ใช้งานหรือผู้ลงทุนภายนอก ซึ่งทำให้การตัดสินใจลงทุนต้องอิงตามการ *คาดเดาว่าข้อมูลเป็นความจริง* เท่านั้น

จุดนี้เองที่ข้อเสนอให้บริษัทเปิดเผย *ที่อยู่กระเป๋าแบบเรียลไทม์* เริ่มได้รับความสนใจ เนื่องจากบนบล็อกเชน การตรวจสอบจำนวนเหรียญและธุรกรรมสามารถทำได้ทันที และเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการป้องกันการรายงานข้อมูลเท็จ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุน รายงานยังระบุว่า แม้ในกรอบบัญชีหรือกฎเกณฑ์ดั้งเดิม การเปิดเผยข้อมูลลักษณะนี้อาจมีประโยชน์ต่อ *การประเมินมูลค่าบริษัท* ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่าความโปร่งใสเชิงข้อมูลจะช่วยเสริม *ประสิทธิภาพของตลาด* เพราะเมื่อกลยุทธ์การใช้บิตคอยน์ไม่ถูกปิดบัง ผู้เข้าร่วมในตลาดก็สามารถนำข้อมูลไปสู่การตีราคาที่แม่นยำมากขึ้น สำหรับ *นักลงทุนสถาบัน* ข้อมูลเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการตัดสินใจลงทุนระยะยาว และอาจเร่งกระบวนการที่ *บิตคอยน์* เข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยที่อยู่กระเป๋าไม่ได้หมายความว่าเป็น *หลักฐานแน่ชัด* ของการถือครองจริงเสมอไป หากมีการนำเหรียญไปค้ำประกันไว้ หรือเป็นกระเป๋ารวมของผู้ให้บริการคัสโตเดียม ก็ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าทรัพย์สินเป็นของบริษัทใดโดยเฉพาะ ไมเคิล เซเลอร์(Michael Saylor) ชี้ว่า “แม้สามารถพิสูจน์ได้ว่าเหรียญนั้นอยู่บนเชน แต่การตรวจสอบโครงสร้างทางการเงินนอกเชน เช่น หนี้สินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก”

นอกจากนี้ การเปิดเผยที่อยู่กระเป๋าอาจกลายเป็น *เป้าหมายของแฮกเกอร์* ได้ เพราะอาจถูกใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมธุรกรรม และนำไปสู่การโจมตีแบบมีเป้าหมาย เซเลอร์ยังเปรียบเทียบว่า “การเปิดเผยกระเป๋าของบริษัทก็เหมือนกับการโพสต์สมุดบัญชีธนาคารของลูกคุณลงอินเทอร์เน็ต”

อีกหนึ่งความเสี่ยงคือ *การเปิดเผยกลยุทธ์* โดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น หากคู่แข่งสามารถคาดการณ์ว่าบริษัทจะทำธุรกรรมทีละจำนวนมากแบบ OTC หรือทำการรีบาลานซ์พอร์ต ก็อาจเสียเปรียบเชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ โครงสร้างเฉพาะของบล็อกเชนยังอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด เช่น เมื่อเกิดการโอนภายในบริษัท อาจถูกตีความว่าเป็น ‘การขายออก’ ซึ่งกระทบต่อ *ความน่าเชื่อถือของบริษัท* โดยตรง

ด้วยเหตุนี้ หลายบริษัทจึงเลือกใช้แนวทาง ‘*ความโปร่งใสแบบเลือกได้*’ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยที่อยู่เฉพาะช่วงประกาศงบการเงิน หรือใช้เทคโนโลยี *Zero-Knowledge Proof (ZKP)* เพื่อแสดงหลักฐานครอบครองเหรียญโดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียด เช่น ที่เก็บเหรียญ วิธีเก็บ ฯลฯ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยลดภาระด้านความปลอดภัย ในขณะที่ยังคงรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้

กรณีของ Strategy ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ แม้บริษัทจะไม่เปิดเผยที่อยู่กระเป๋า แต่บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่าง Arkham Intelligence สามารถติดตามพบว่า Strategy ถือบิตคอยน์จำนวนหลายแสนเหรียญ เพราะเมื่อถือครองถึงระดับหนึ่ง รูปแบบการทำธุรกรรมก็จะเริ่มแสดงข้อมูลอย่างเด่นชัด จนปกปิดไม่ได้ *ความคิดเห็น* ชี้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงแรงกดดันให้เปิดเผยข้อมูลในระยะยาว

โคอินอีซสรุปว่า การเปิดเผยข้อมูลบนเชนของบริษัทที่ถือบิตคอยน์ต้องเป็น *กลยุทธ์เฉพาะ* ที่คำนึงถึงขนาดสินทรัพย์ โครงสร้างการเก็บรักษา และความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละองค์กร ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการพิสูจน์ข้อมูลด้วย ZKP พร้อมยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและบัญชีให้ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น

เมื่อ *บิตคอยน์* ก้าวเข้าสู่การยอมรับในกระแสหลัก ความต้องการของนักลงทุนไม่ได้อยู่แค่ ‘ถือหรือไม่ถือ’ อีกต่อไป แต่คือ ‘บริษัทสามารถพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของการถือครองได้แค่ไหน’ ซึ่งใครที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในตลาดได้ก่อน ย่อมจะเป็นผู้กำหนด *มูลค่าในอนาคต* ของตลาดคริปโตที่กำลังเติบโตนี้.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1