เครือข่ายไพ(Pi Network) เปิดตัวเมนเน็ตอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ราคาไพคอยน์(PI) ร่วงลงอย่างหนัก ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอาจมีโอกาสฟื้นตัวในอนาคต และแนะนำให้ถือสินทรัพย์ต่อไป
เครือข่ายไพเพิ่งได้รับการจดทะเบียนในตลาดแลกเปลี่ยนหลายแห่งอย่างเป็นทางการ โดยมี ‘อุปทานสูงสุด’ ตั้งไว้ที่ 100 พันล้านโทเค็น และ ‘อุปทานหมุนเวียน’ อยู่ที่ประมาณ 9.7 พันล้านโทเค็น แม้ว่าในช่วงแรกจะมีแรงซื้อคึกคักจนทำให้ราคาพุ่งเกิน 2 ดอลลาร์ แต่ความกดดันจากฝั่งขายก็ทำให้ราคาร่วงลงมาอยู่ที่ 0.78 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าร่วงมากกว่า 55% แสดงให้เห็นถึง ‘ความผันผวนสูง’ ของตลาด และแรงเทขายที่ยังคงต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ตลาดแลกเปลี่ยน ‘OKX’ ได้ขึ้นทะเบียนไพคอยน์ แต่ ‘ไบแนนซ์’ ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงชะลอการลิสต์เหรียญนี้ โดยให้เหตุผลว่าโครงการต้องผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดก่อน การลิสต์บนไบแนนซ์อาจช่วยกระตุ้นราคาของไพคอยน์ให้เพิ่มสูงขึ้นได้ในอนาคต
คิม วง(Kim Wong) นักวิเคราะห์คริปโตเคอร์เรนซี เปิดเผยว่า “แม้ว่าราคาจะซบเซา เนื่องจาก ‘ปริมาณการซื้อขายต่ำ’ และไม่มีเงินทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ไหลเข้ามา แต่หากแรงขายลดลง นักลงทุนอาจกลับมาให้ความสนใจ และราคาก็อาจฟื้นตัว” นอกจากนี้ เขายังเสริมว่า “การเปิดตัวเมนเน็ตของ ‘เครือข่ายไพ’ นับเป็นก้าวสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้โครงการได้รับการประเมินมูลค่าอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น การถือครองในระยะยาวจึงเป็นสิ่งสำคัญ”
ด้านภาพรวมของเครือข่าย ไพเน็ตเวิร์กมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ‘ระบบนิเวศบล็อกเชน’ ที่ใช้งานง่าย โดยมี ‘ไพบราวเซอร์’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเครือข่ายได้สะดวก รวมถึง ‘ไพวอลเล็ต’ ที่รองรับการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย ทั้งยังมีแผนเสริมศักยภาพการเชื่อมโยงระหว่าง ‘แอปพลิเคชันบนเว็บ 3.0’ และ ‘บริการบนเว็บทั่วไป’
อย่างไรก็ตาม แม้จะมี ‘เครื่องมือสนับสนุนนักพัฒนา’ แต่ความสำเร็จของเครือข่ายไพยังต้องอาศัย ‘กรณีการใช้งานจริง’ เพื่อผลักดันให้เกิดการยอมรับในวงกว้าง ด้วยปริมาณอุปทานที่สูงขึ้น ไพเน็ตเวิร์กจึงเดินหน้าควบคุมภาวะเงินเฟ้อผ่าน ‘นโยบายโทเคโนมิกส์’ เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบในระยะยาว
ความคิดเห็น 0