ชาร์ปลิงก์(SharpLink) บริษัทที่เน้นการบริหารจัดการสินทรัพย์โดยใช้เทคโนโลยีของอีเธอเรียม(ETH) กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังประกาศเข้าซื้ออีเธอเรียมจำนวนมากถึง 56,533 ETH คิดเป็นมูลค่าราว 24,780 ล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 ETH = 4,518 ดอลลาร์ หรือประมาณ 628,000 บาท) ส่งผลให้ยอดถือครองรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 370 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 51,430 ล้านบาท
ดีลครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ *ราคาอีเธอเรียมฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว* โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ CoinGecko ราคาล่าสุดของอีเธอเรียมอยู่ที่ระดับ 4,518 ดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้เคยร่วงลงไปถึง 4,300 ดอลลาร์ในวันเดียว ความเคลื่อนไหวของสถาบันขนาดใหญ่ เช่น ชาร์ปลิงก์ ถูกมองว่าเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันให้ราคากลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
เป็นที่ทราบกันดีว่าชาร์ปลิงก์อยู่ภายใต้การนำของโจเซฟ รูบิน(Joseph Lubin) ซีอีโอของคอนเซนซิส(Consensys) หนึ่งในบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของอีเธอเรียม และกำลังเร่งลงทุนในเครื่องมือบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโต
แม้ชาร์ปลิงก์จะมีการถือครองอีเธอเรียมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ *บริษัทที่ถืออีเธอเรียมมากที่สุดในโลก* ยังเป็นของ บิตมาย อีเมอร์ชัน เทคโนโลยีส์(BitMine Immersion Technologies) ที่บริหารโดย ทอม ลี(Tom Lee) ซึ่งมียอดถือครองสูงถึง 770 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.07 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้น ยังมีบริษัทอื่น ๆ อย่าง คอยน์เบส(Coinbase), บิทดิจิทัล(Bit Digital) และ อีเธอร์ซิลลา(ETHZilla) ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “นักลงทุนรายใหญ่” ซึ่งมีอิทธิพลต่อราคาตลาดและความเชื่อมั่นระยะยาวในเครือข่าย ETH
*ความคิดเห็น*: การเดินหน้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันแบบไม่หวั่นผันผวน สะท้อนให้เห็นว่าอีเธอเรียมไม่ได้เป็นเพียงทรัพย์สินดิจิทัล แต่กำลังกลายเป็น *โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่น* ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาว และอาจมีบทบาทมากขึ้นในตลาดการเงินระดับโลกในอนาคต
ความคิดเห็น 0