ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันต่อ *อีเธอเรียม(ETH)* ยังคงเหนียวแน่น ล่าสุด *แบล็คร็อก(BlackRock)* บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินการเข้าซื้อ *อีเธอเรียม* เพิ่มอีกมูลค่าประมาณ 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,370 พันล้านวอน เมื่อวันที่ 26 ตามเวลาท้องถิ่น อ้างอิงจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลคริปโต อาร์คัม อินเทลลิเจนซ์(Arkham Intelligence) การซื้อครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น *กลยุทธ์เชิงรุก* ในช่วงตลาดปรับฐาน
ดีลดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ราคาของ *อีเธอเรียม* ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 4,316 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 600 ล้านบาท) ภายในวันเดียว โดย *แบล็คร็อก* มองเห็นโอกาสจากการปรับตัวลงและตัดสินใจเพิ่มสัดส่วนการถือครองอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำธุรกรรมครั้งนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับการขยายสินทรัพย์ของ ETF อีเธอเรียมแบบสปอตของบริษัทในชื่อ *iShares Ethereum*
การเคลื่อนไหวของแบล็คร็อกสร้างกระแสตอบรับที่หลากหลายในตลาด บางฝ่ายมองว่าการซื้อของผู้เล่นรายใหญ่เช่นนี้ช่วย ‘เสริมความเชื่อมั่นระยะยาว’ ให้กับตลาด แต่ก็มีนักลงทุนอีกกลุ่มที่มองว่า การลดลงของราคา *อีเธอเรียม* อาจไม่ได้จบเพียงแค่การปรับฐานสั้น ๆ แต่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงอย่างเต็มตัว ปัจจุบันราคาซื้อขายของ *ETH* ปรับลดลงราว 1.5% ภายในสองวันล่าสุด มาอยู่ที่ 4,515.67 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 627 ล้านบาท)
*แบล็คร็อก* ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการคริปโต บริษัทได้ดำเนินการเกี่ยวกับ ETF ที่อ้างอิง *บิตคอยน์(BTC)* มาแล้วก่อนหน้านี้ สำหรับการลงทุนใน *ETH* ครั้งนี้ จึงถูกวิเคราะห์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระจายพอร์ตในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน การตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่นี้จึงสะท้อนถึง “ความกล้ารับความเสี่ยง” ของแบล็คร็อกได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าภาพรวมตลาดคริปโตจะยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าแนวโน้มของ *อีเธอเรียม* เป็นเพียงการพักตัวระยะสั้นหรือเป็นสัญญาณของขาลงครั้งใหญ่ แต่การเข้าลงทุนเชิงรุกของแบล็คร็อกอาจกลายเป็น *ตัวกระตุ้น* ให้บรรยากาศการลงทุนของนักลงทุนสถาบันกลับมาคึกคักอีกครั้ง และอาจช่วยจุดประกาย *การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นต่ออีเธอเรียม* อย่างมีนัยสำคัญ ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0