กระเป๋าเงินบิตคอยน์(BTC)จากยุคสมัยของซาโตชิที่ไม่ได้ใช้งานมานานกว่า 12 ปีได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง สร้างความตื่นตะลึงในตลาดคริปโตอีกครั้ง โดยกระเป๋านี้ถือครองบิตคอยน์จำนวนทั้งสิ้น 479 BTC ซึ่งคาดว่าหากซื้อไว้ในช่วงต้นด้วยราคาประมาณ 109 ดอลลาร์ต่อเหรียญ มูลค่าในปัจจุบันที่ราคาประมาณ 112,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC จะพุ่งขึ้นเป็นประมาณ 53.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 745 ล้านบาท
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถูกตรวจพบโดยบัญชีทวิตเตอร์ ‘Whale Alert’ ซึ่งมีบทบาทในการติดตามการเคลื่อนไหวของ *วาฬบิตคอยน์ (Whale)* โดยรายงานว่า ที่อยู่ดังกล่าวไม่มีกิจกรรมมานานกว่า 12.8 ปี ก่อนที่จะเริ่มมีธุรกรรมขนาดเล็กเกิดขึ้น เช่น การโอน 0.25 BTC มูลค่าราว 3.8 ล้านบาท ไปจนถึงการโอน 16 BTC มูลค่ากว่า 249 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าเหรียญที่เชื่อว่า ‘ลืมไปแล้ว’ อาจถูกแนวโน้มกลับเข้าสู่การหมุนเวียนอีกครั้ง
ปรากฏว่ากระเป๋านี้เป็นหนึ่งในบัญชีที่เคยรับรางวัลจากการขุดบิตคอยน์ผ่านพูลขุดชื่อดัง ‘DeepBit’ ในปี 2012 โดยพบหลักฐานการเทรดเล็กน้อยในช่วงเวลานั้น เช่น การขาย 4 BTC ในราคาประมาณ 439 ถึง 519 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าในวันนี้ โดยถือเป็นการเพิ่มมูลค่ากว่า *10,000%*
บิตคอยน์ส่วนใหญ่จากกระเป๋านี้ได้ถูกโอนไปยังที่อยู่กระเป๋าในรูปแบบ Bech32 ซึ่งเป็นรูปแบบกระเป๋าที่ใหม่กว่า แสดงให้เห็นว่าคีย์ของกระเป๋ายังคงอยู่กับเจ้าของเดิม และจุดประสงค์ของการเคลื่อนไหวอาจเป็นไปเพื่อการจัดโครงสร้างใหม่หรือความปลอดภัยมากกว่าการขายออกในระยะสั้น
นักวิเคราะห์ในวงการมองว่า การกลับมาเคลื่อนไหวของกระเป๋ายุคแรกนี้สะท้อนถึง *พฤติกรรมของนักลงทุนระยะยาว* หรือ *ผู้ที่มีความเชื่อมั่นในบิตคอยน์อย่างแรงกล้า* แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมกล่าวว่า “การถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมาอย่างยาวนานเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงความสามารถในการปกป้องทรัพย์สินส่วนตัว รวมถึงเป็นตัวอย่างของความศรัทธาต่อบิตคอยน์” พร้อมเสริมว่า “ถึงแม้จะสร้างความเคลื่อนไหวด้านจิตวิทยาของนักลงทุนในระยะสั้น แต่หากไม่มีการขายเกิดขึ้นจริง ก็อาจจะไม่มีผลกระทบต่อราคาตลาดมากนัก”
เหตุการณ์ในลักษณะนี้มีส่วนช่วยขับเน้นถึง *ความหายากและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของบิตคอยน์* ที่มีจำนวนจำกัด และมักถูกดึงกลับมาให้ความสนใจเมื่อมีธุรกรรมจากกระเป๋าเก่า ก่อให้เกิดกระแสการวิเคราะห์ใหม่เกี่ยวกับอัตราการถือระยะยาวของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงต่อราคาตลาดจะยังต้องติดตามจากการที่เหรียญเหล่านี้จะถูกส่งเข้าไปยังตลาดซื้อขายหรือไม่ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0