แนวโน้มการปรับลด ‘อัตราดอกเบี้ยนโยบาย’ ของสหรัฐฯ ในปี 2025 กำลังชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากตัวเลขจ้างงานเดือนสิงหาคมที่ประกาศล่าสุด ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มประเมินว่าท่าทีตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจยุติเร็วกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้า โดย ‘อัตราดอกเบี้ย’ ถือเป็นตัวแปรสำคัญต่อทั้งตลาดการเงินโลก และตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ทำให้ประเด็นนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า การจ้างงานใหม่ในเดือนสิงหาคมอยู่เพียง 22,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 75,000 ตำแหน่งอย่างมีนัยสำคัญ สัญญาณชะลอตัวในตลาดแรงงานที่ชัดเจนเช่นนี้ ทำให้หลายสถาบันการเงินใหญ่เริ่มเปลี่ยนแปลงมุมมองมาเป็นคาดการณ์ ‘การลดดอกเบี้ย’ ในปี 2025
แบงก์ออฟอเมริกา (Bank of America) หนึ่งในธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ปรับมุมมองล่าสุดจากเดิมที่คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ทั้งปี 2025 มาเป็นคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า โดยคาดว่าในเดือนกันยายนและธันวาคมจะมีการลดอย่างละ 25 จุดเบส(0.25%) คิดเป็นการลดรวม 50 จุดเบส ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับลดจากระดับ 4.25~4.5% มาอยู่ที่ช่วง 3.75~4.0%
ด้านโกลด์แมน แซคส์(Goldman Sachs) กลับมีมุมมองผ่อนคลายยิ่งกว่า โดยประเมินว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 25 จุดเบสต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนในเดือนกันยายน, ตุลาคม และพฤศจิกายน รวม 75 จุดเบส ขณะที่บริษัทการเงินรายใหญ่อีกรายอย่าง ซิตี้กรุ๊ป(Citigroup) คาดว่าการปรับลดจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน, ตุลาคม และธันวาคม อย่างละ 25 จุดเบสเช่นกัน
สัญญาณจากบรรดาสถาบันการเงินชื่อดังเหล่านี้ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน กำลังเป็นปัจจัยผลักดันให้เฟดอาจเปลี่ยนจากนโยบาย ‘ตึงตัว’ มาเป็น ‘ผ่อนคลาย’ ในปีหน้า ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงจรเศรษฐกิจ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องจับตามองคือบทบาทของทรัมป์ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยตลอดช่วงหลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาเน้นย้ำหลายครั้งว่าการแข็งค่าของดอลลาร์และดอกเบี้ยที่สูง เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของภาคการผลิตในประเทศ ซึ่งท่าทีนี้อาจเพิ่มแรงกดดันทางการเมืองให้กับทิศทางนโยบายของเฟดในระยะถัดไป
สำหรับตลาดคริปโต ความเป็นไปได้ในการปรับลดดอกเบี้ยนั้นมักถูกตีความเป็น ‘สัญญาณบวก’ เพราะจะช่วยเพิ่ม ‘สภาพคล่อง’ ในระบบเศรษฐกิจ โดยหากเฟดลดดอกเบี้ยจริง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่บิตคอยน์(BTC) และสินทรัพย์ดิจิทัลหลักอื่นๆ จะได้รับประโยชน์และเข้าสู่ช่วงขาขึ้น นอกจากนี้ การหมุนเวียนพอร์ตการลงทุนตามการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ย อาจส่งแรงกระเพื่อมไปถึงเหรียญระดับกลางอย่างเอ이다(ADA), โพลิกอน(MATIC), และเชนลิงก์(LINK) ด้วย
แม้นโยบายของเฟดจะยังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาในอนาคต แต่ทิศทางที่เริ่มชัดเจนคือ เฟดกำลังค่อยๆ ขยับจาก ‘นโยบายการเงินแบบเข้มงวด’ สู่ ‘แนวทางที่ผ่อนคลาย’ มากขึ้น นักลงทุนจึงต่างรอดูตัวเลขว่าด้วยการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อในเดือนถัดไปอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินการตัดสินใจครั้งสำคัญของเฟดอีกครั้งในปลายปีนี้
ความคิดเห็น 0