กิจกรรมของเครือข่าย 'บิตคอยน์(BTC)' ลดลงต่ำสุดในรอบปี อาจทำให้ราคาถอยสู่ 86,000 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 22 บริษัทวิเคราะห์ออนเชน 'คริปโตควอนต์(CryptoQuant)' เปิดเผยว่าดัชนีกิจกรรมของเครือข่ายบิตคอยน์ลดลง 17% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ดัชนีนี้วัดจากจำนวนที่อยู่ที่ใช้งาน จำนวนธุรกรรม และขนาดบล็อก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักของเครือข่าย
ปัจจุบัน ดัชนีกิจกรรมเครือข่ายอยู่ที่ระดับ 3,658 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 ที่ค่าดังกล่าวลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 365 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเครือข่ายบิตคอยน์กำลังเข้าสู่ 'แนวโน้มขาลง'
ความต้องการบิตคอยน์ที่ลดลงยังดำเนินต่อเนื่อง หลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคมปีที่แล้ว โดยหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความต้องการบิตคอยน์เคยเพิ่มขึ้นแตะ 279,000 รายการ ก่อนลดลงเหลือเพียง 70,000 รายการในปัจจุบัน ปัจจัยกดดันหลักมาจากความกังวลเรื่องภาษีการค้าของสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อ และแรงขายจากเจ้าหนี้ของ 'FTX'
ตลาด 'บิตคอยน์ ETF' ก็สะท้อนแนวโน้มเดียวกัน โดยปริมาณซื้อสุทธิรายวันของ ETF ลดลงจาก 18,000 BTC ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เหลือต่ำกว่า 1,000 BTC ในขณะนี้ คริปโตควอนต์ชี้ว่าการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ก่อนหน้านี้มีความสัมพันธ์อย่างมากกับการซื้อในตลาด ETF ดังนั้น ระดับการซื้อตอนนี้อาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้เกิดการฟื้นตัวของราคา
นอกจากนี้ ดัชนี 'Inter-exchange Flow Pulse' ของคริปโตควอนต์ ซึ่งวัดสภาพคล่องระหว่างตลาดซื้อขาย แสดงให้เห็นว่าความต้องการบิตคอยน์ในตลาดสหรัฐฯ กำลังลดลงเช่นกัน มีการส่งบิตคอยน์จากแพลตฟอร์มอื่นเข้าสู่ 'คอยน์เบส(Coinbase)' น้อยลง ซึ่งเป็นสัญญาณของแรงซื้อที่ลดลง อาจเพิ่มโอกาสให้เกิดการปรับฐานของราคา
การฟื้นตัวของราคาที่มั่นคงจำเป็นต้องมี 'สภาพคล่องของ 'สเตเบิลคอยน์(Stablecoin)' กลับมาขยายตัว' แม้ว่ามูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์จะทะลุ 200 พันล้านดอลลาร์แล้ว แต่ความเร็วในการเติบโตกำลังชะลอลง โดยเฉพาะ 'เทเธอร์(USDT)' ซึ่งอัตราการเติบโตของมูลค่าตลาดในช่วง 60 วัน ลดลงจาก 20.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม เหลือเพียง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน หดตัวกว่า 92%
คริปโตควอนต์เตือนว่า หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป อาจทำให้ราคาบิตคอยน์ลดลงถึง 86,000 ดอลลาร์ การป้องกันการร่วงลงของราคาจำเป็นต้องมีทั้งแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของสภาพคล่องไปพร้อมกัน
ความคิดเห็น 0