Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) ก้าวสู่ศูนย์กลางการเงินโลก หลังวอลล์สตรีทเร่งแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคน

อีเธอเรียม(ETH) ก้าวสู่ศูนย์กลางการเงินโลก หลังวอลล์สตรีทเร่งแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคน / Tokenpost

การเคลื่อนไหวของตลาดทุนสหรัฐฯ ต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลกำลังเข้าสู่ช่วงเร่งตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง *ตลาดการแปลงสินทรัพย์จริงให้เป็นโทเคน (Tokenization)* บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรุนแรง ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าในอนาคตอีกหลายสิบปีข้างหน้า อาจมีสินทรัพย์จริงมูลค่ากว่า 120 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,668 ล้านล้านบาท) อย่างหุ้น พันธบัตร และกองทุน ETF ถูกย้ายขึ้นบล็อกเชน ซึ่งอีเธอเรียมมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ライอัน ฌอน อดัมส์(Ryan Sean Adams) ผู้ร่วมก่อตั้งสื่อด้านบล็อกเชน Bankless กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “สหรัฐฯ กำลังใช้ *อีเธอเรียมเป็นบัญชีแยกประเภท (Ledger)* อย่างเป็นทางการ และก้าวเข้าสู่โลกออนเชนอย่างเต็มตัว” โดยเขาคาดว่า “อีเธอเรียมจะกลายเป็น ‘*รากฐานแห่งความเชื่อถือ (Root of trust)*’ ของตลาดทุนสหรัฐฯ และจะรับบทเป็นบัญชีหลักที่รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ากว่า 100 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านล้านบาท)” เขายังเสริมว่า ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและความชัดเจนด้านกฎหมาย *วอลล์สตรีทและฟินเทคขนาดใหญ่กำลังหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดโทเคนอย่างรวดเร็ว*

ข้อมูลจาก RWA.xyz แสดงให้เห็นว่ามูลค่าสินทรัพย์จริงบนออนเชน (on-chain RWA) เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ที่ 29,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.03 ล้านล้านบาท) ขณะเดียวกัน หากรวมกับมูลค่าสเตเบิลคอยน์ มูลค่ารวมของสินทรัพย์จริงบนบล็อกเชนพุ่งขึ้นสูงกว่า 307,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 42.67 ล้านล้านบาท) โดยในจำนวนนี้มากกว่า *75% ถูกดำเนินการผ่านอีเธอเรียม, เลเยอร์2 และเครือข่ายที่รองรับ EVM* ซึ่งตอกย้ำบทบาทของอีเธอเรียมในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักของตลาดนี้

ด้านสถาบันการเงินก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน Bloomberg รายงานว่า *แบล็คร็อก* ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังพัฒนา ETF ในรูปแบบโทเคน และได้ออกกองทุนตลาดเงินของตนชื่อ BUIDL บนเครือข่ายอีเธอเรียมแล้ว ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ตลาดเชื่อว่า *อีเธอเรียมจะกลายเป็นโครงข่ายอินฟราสตรักเจอร์หลักในการแปลง ETF ให้เป็นโทเคน*

ตัวชี้วัดของระบบ *การเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi)* บนอีเธอเรียมก็อยู่ในช่วงฟื้นตัวอีกครั้ง DeFiLlama ระบุว่า *มูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่ถูกล็อกไว้ (TVL)* บนเครือข่ายอีเธอเรียมแตะระดับ 94,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 13.06 ล้านล้านบาท) ซึ่งเข้าใกล้จุดสูงสุดเมื่อปี 2021 ที่อยู่ที่ 108,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 15.01 ล้านล้านบาท) โดย TVL พุ่งขึ้นกว่า *57% ภายใน 3 เดือน* ที่ผ่านมา *ความคิดเห็น: วงการประเมินว่าอีเธอเรียมคือระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่ใหญ่กว่า VISA ในด้านการชำระเงิน และมียอดหมุนเวียนดอลลาร์มากกว่า PayPal*

ในตลาดเอเชีย ราคาของอีเธอเรียมพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ระดับ 4,530 ดอลลาร์ (ราว 629,000 บาท) แม้ตลาดจะคาดว่าราคาอาจเผชิญการปรับฐานในระยะสั้น แต่ *ระดับ 4,200 ดอลลาร์ (ราว 582,000 บาท)* ยังแสดงบทบาทเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า *การเข้าสนับสนุนจากภาครัฐสหรัฐฯ และการเข้ามาของสถาบันการเงิน* จะส่งให้การโทเคนสินทรัพย์จริงขยายวงกว้างขึ้นภายใต้กรอบกำกับดูแลที่ชัดเจน และเพราะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังเป็นสินทรัพย์สำรองหลักของโลก จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า *อีเธอเรียมจะยกระดับเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลก* ได้ในอนาคต *ความคิดเห็น: คริปโตไม่ใช่เพียงการทดลองอีกต่อไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเปิดบทใหม่ให้กับวอลล์สตรีท*

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1