ชางเผิง เจ้า(CZ) ผู้ร่วมก่อตั้งไบแนนซ์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีแฮกเกอร์เจาะระบบของกระดานเทรดคริปโตเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์แฮ็กมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,400 ล้านบาท) ของไบไบต์(Bybit) ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกครั้ง
CZ ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเขาว่า “แฮกเกอร์กำลังพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินเย็นที่ใช้ ‘มัลติซิก’ อย่างต่อเนื่อง” พร้อมชี้ให้เห็นจุดอ่อนด้านความปลอดภัย เขาอธิบายว่าผู้โจมตีได้ดัดแปลง ‘ฟรอนต์เอนด์’ ของแพลตฟอร์มเพื่อให้ธุรกรรมดูปกติ แต่ความจริงแล้วธุรกรรมถูกลงนามในแบบที่แตกต่างไปจากที่ควรจะเป็น ซึ่งเผยให้เห็นช่องโหว่ของระบบ ‘มัลติซิก’
เขายังแนะนำว่ากระดานเทรดควร ‘ระงับการถอนเงิน’ ทันทีหลังเกิดเหตุแฮ็กเพื่อจำกัดความเสียหาย โดยยกตัวอย่างกรณีของไบแนนซ์ในปี 2019 ซึ่งหยุดการถอนเงินเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังถูกแฮ็ก แม้ว่าจะสร้างความสับสนในช่วงแรก แต่ก็ช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานได้ในที่สุด
ในขณะเดียวกัน CZ ได้กล่าวชื่นชมวิธีการรับมือของไบไบต์ โดยเฉพาะ ‘เบน โจว’ (Ben Zhou) ซีอีโอของบริษัทที่แสดงความโปร่งใสในการจัดการกับสถานการณ์ครั้งนี้ เขาตั้งข้อสังเกตว่า หลายกระดานเทรดมักไม่เปิดเผยข้อมูลเมื่อตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เขาจึงเรียกร้องให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ มีความโปร่งใสมากขึ้นเพื่อปกป้องผู้ใช้งาน
จากเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโต CZ เตือนว่านักลงทุนควรตรวจสอบ ‘นโยบายความปลอดภัย’ ของกระดานเทรดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจใช้งาน พร้อมเน้นย้ำว่า ‘ความปลอดภัย’ ควรเป็น ‘ลำดับความสำคัญสูงสุด’ ของอุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมด
ความคิดเห็น 0