ไบบิท(Bybit) กู้คืนอีเธอเรียม(ETH) ได้เกือบ 50% หลังเหตุแฮ็กครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ไบบิทตกเป็นเป้าหมายของการแฮ็กครั้งใหญ่ สูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัลรวมมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,400 ล้านบาท) โดยสินทรัพย์ที่ถูกโจรกรรมส่วนใหญ่เป็น ‘สเตกกิ้งอีเธอร์’ ทั้งรูปแบบ Staked Ether(STETH) และ Mantle Staked Ether(mETH) รวมถึงโทเค็น ERC-20 อื่น ๆ ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์แฮ็กที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต
เพียงสองวันให้หลัง ไบบิทสามารถกู้คืนเงินฝาก ETH กลับมาเกือบครึ่งหนึ่งของระดับก่อนถูกแฮ็ก ข้อมูลจาก CryptoQuant ระบุว่า ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ไบบิทมีอีเธอเรียมในระบบ 201,600 ETH หรือประมาณ 45% ของจำนวนที่มีอยู่ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ช่วงแรกหลังถูกโจมตี ยอดถือครอง ETH ของแพลตฟอร์มลดลงเหลือเพียง 61,000 ETH ซึ่งสะท้อนถึงความรวดเร็วในการกู้คืน
หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ไบบิทสามารถกู้คืนสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วคือการใช้ ‘ธุรกรรม OTC’ เพื่อซื้อ ETH กลับคืนมา แพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน Lookonchain รายงานว่า หลังเหตุการณ์ ไบบิทได้ซื้ออีเธอเรียมจำนวน 106,498 ETH มูลค่าประมาณ 295 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10,300 ล้านบาท)
นอกจากนี้ กระดานเทรดคริปโตหลักหลายแห่งยังร่วมให้ความช่วยเหลือ ไบแนนซ์(Binance) ส่งอีเธอเรียมจำนวน 50,000 ETH ให้ไบบิท ขณะที่บิทเก็ต(Bitget) โอนให้อีก 40,000 ETH และตู้ จุน(Du Jun) ผู้ร่วมก่อตั้ง HTX ช่วยเหลือเพิ่มอีก 10,000 ETH
แม้จะเผชิญเหตุแฮ็กครั้งใหญ่ ไบบิทยังคงดำเนินการตามปกติและพยายามรักษาความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเปิดเผยว่า ภายใน 10 ชั่วโมงแรกหลังเกิดเหตุ แพลตฟอร์มจัดการคำร้องถอนเงินกว่า 350,000 รายการ และกว่า 99.9% ของคำร้องเหล่านั้นได้รับการดำเนินการสำเร็จ
ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยบล็อกเชนเริ่มสืบสวนเบื้องหลังของการโจมตีครั้งนี้ โดยเชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮ็กเกอร์ ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ (Lazarus Group) ที่มีความเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ เมียร์ โดเลฟ(Meir Dolev) ผู้ร่วมก่อตั้ง Cyvers ชี้ว่า วิธีการที่ใช้โจมตีไบบิทคล้ายกับรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นกับ WazirX และ Radiant Capital โดยอาศัยการเจาะจงเปลี่ยนแปลงสมาร์ตคอนแทร็กต์ผ่านกระบวนการ MultiSig Cold Wallet
แม้จะเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ไบบิทยังคงยืนยันว่าสถานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง และมีสินทรัพย์เกินกว่าหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ Hacken บริษัทตรวจสอบความปลอดภัย ระบุว่า เงินสำรองของไบบิทยังคงเพียงพอสำหรับการคุ้มครองเงินทุนของผู้ใช้
เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนถึงความเสี่ยงในอุตสาหกรรมคริปโต และทำให้แพลตฟอร์มต้องพิจารณามาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ผู้สังเกตการณ์ต่างจับตาดูว่าไบบิทจะใช้กลยุทธ์ใดในการป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้ในอนาคต
ความคิดเห็น 0