ดีบีเอสแบงก์, แฟรงคลิน เทมเพิลตัน และริปเปิล(XRP) ประกาศความร่วมมือเพื่อเปิดตัวบริการซื้อขายและการปล่อยกู้บนระบบ ‘โทเคนไรซ์’ สำหรับนักลงทุนสถาบัน โดยโครงการนี้จะใช้บล็อกเชน ‘เอ็กซ์อาร์พีเล็ดเจอร์(XRP Ledger)’ เป็นรากฐาน พร้อมนำเสนอวิธีการบริหารจัดการเงินทุนที่ยืดหยุ่น ท่ามกลางความผันผวนของตลาด ผ่านการใช้ ‘กองทุนตลาดเงินแบบโทเคนไรซ์’ ควบคู่กับสเตเบิลคอยน์
ทั้งสามบริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ(MOU) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันแนวทางใหม่ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสลับระหว่าง ‘สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย’ กับ ‘สเตเบิลคอยน์’ ได้อย่างคล่องตัว ความสามารถในการปรับพอร์ตโฟลิโออย่างยืดหยุ่นในสภาวะตลาดที่ผันผวนถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
ลิม วีเคียน(Lim Wee Kian) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีบีเอสดิจิทัลเอ็กซ์เชนจ์(DDEx) กล่าวว่า “ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมงและไร้พรมแดน จึงต้องการแนวทางที่ต่างจากตลาดแบบดั้งเดิม ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างของการที่ ‘หลักทรัพย์แบบโทเคนไรซ์’ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสภาพคล่องให้กับระบบการเงินโลกได้อย่างไร” *ความคิดเห็น*
โครงการนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การนำกองทุนตลาดเงินระยะสั้นของแฟรงคลิน เทมเพิลตัน มาแปลงเป็นสินทรัพย์โทเคนในชื่อ ‘sgBENJI’ ประกอบกับสเตเบิลคอยน์ 'Ripple USD(RLUSD)' ซึ่งออกโดยริปเปิล โดยการจับคู่ทั้งสองสินทรัพย์จะช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถทำการซื้อขายแบบเรียลไทม์ผ่าน DDEx ช่วยเสริมให้การบริหารสินทรัพย์มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นในสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
sgBENJI และ RLUSD เป็นการผสมผสานที่มุ่งเน้นทั้ง ‘ผลตอบแทน’ และ ‘ความมั่นคง’ โดย RLUSD ทำงานเป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีค่าคงที่ตามดอลลาร์สหรัฐ ส่วน sgBENJI ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอายุสั้นเพื่อสร้างรายได้จากดอกเบี้ยอย่างมั่นคง ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถ ‘สร้างรายได้พร้อมกับรักษาสภาพคล่องที่มั่นคง’ ได้พร้อมกัน
ความร่วมมือของดีบีเอส แฟรงคลิน เทมเพิลตัน และริปเปิล สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของผู้นำในภาคการเงินและบล็อกเชนระดับโลก และกลายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่า *ตลาดสินทรัพย์โทเคนกำลังเดินหน้าเข้าสู่การยอมรับในระดับเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง*
ความคิดเห็น 0