ตลาดฟิวเจอร์สของอีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญกับแรงกดดันฝั่งขายที่รุนแรงขึ้น โดยดัชนีในตลาดอนุพันธ์ต่างๆ บ่งชี้ถึงการลดลงของความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างชัดเจน อีเธอเรียมร่วงลงไปต่ำกว่า 4,100 ดอลลาร์ (ราว 5.7 แสนบาท) ส่งผลให้สถานะที่นักเทรดถืออยู่บนแพลตฟอร์มหลักเกิดความไม่สมดุลอย่างรวดเร็ว *แรงขายเชิงรุกและค่า Funding ติดลบสะท้อนถึงความเสี่ยงด้านขาลงในระยะสั้นที่เพิ่มสูงขึ้น*
ที่ไบแนนซ์ ปริมาณสัญญาคงค้างของอีเธอเรียม (Open Interest) ลดลงจากระดับ 9.84 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท) เหลือ 9.58 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.33 ล้านล้านบาท) หรือลดลงราว *15%* เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่ 1.073 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา และกลับมาใกล้เคียงระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนอย่างคริปโตเควนต์(CryptoQuant) รายงานว่า การลดลงของสัญญาคงค้างควบคู่กับยอดซื้อขายสุทธิในฝั่ง Long ที่ติดลบ 1.66 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) เป็นสัญญาณว่า *แรงเทขายกำลังกดดันตลาดผ่านการชำระบัญชีแบบตื่นตระหนก หรือการปรับตำแหน่งอย่างมีนัยสำคัญ* สะท้อนถึงการตัดขาดทุนของนักลงทุนที่เข้าซื้อช้ากว่า และเปิดเผยให้เห็นถึง ‘โครงสร้างตลาดที่กำลังเปราะบาง’
Funding rate ที่ติดลบยังเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ตอกย้ำแนวโน้มขาลง โดยที่ไบแนนซ์อยู่ที่ -0.004% ส่วนที่ OKX อยู่ที่ -0.02% ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างบิตเม็กซ์, ไบบิท, HTX โกลบอล และเดริบิตก็ล้วนมีค่าที่ใกล้ศูนย์หรือติดลบเช่นกัน นั่นหมายความว่า *สถานะ Short กำลังครองตลาด* และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการชำระบัญชีในฝั่ง Long อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม *ในเชิงประสบการณ์ การที่ Funding ติดลบลึกและราคาบีบตัวใกล้แนวรับอาจเป็นปัจจัยชั่วคราวที่หนุนให้เกิดการรีบาวด์ในระยะสั้น*
ภาพรวมของตลาดฟิวเจอร์สอีเธอเรียมในเวลานี้คือ *ตลาดขาลงที่คลาสสิก* ซึ่งประกอบด้วยการจัดพอร์ตฝั่งขายเป็นหลัก ความเชื่อมั่นที่ถดถอย และเงินทุนไหลออกจากระบบ จึงไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ของการร่วงลงเพิ่มเติมในระยะสั้นได้เลย
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ตลาดกำลังถูกปกคลุมด้วยความกลัว บางนักวิเคราะห์กลับมองว่านี่อาจเป็น *โอกาสในการเข้าซื้อ* นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังอย่าง มิคาเอล ฟาน เดอ ป็อป(Michaël van de Poppe) แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่า ตลาดอีเธอเรียมกำลังเข้าสู่ ‘ช่วงชำระล้างภายใน’ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจเป็น *จุดปรับฐานที่ดีต่อการสะสมระยะยาวเพื่อรอการฟื้นตัว* เขาชี้ว่ามีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาในบางระดับราคา ซึ่งอาจกลายเป็น *จุดเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่* ได้อีกครั้ง
ขณะนี้ตลาดอนุพันธ์ของอีเธอเรียมกำลังอยู่ในภาวะ *ความคิดเห็นที่แตกขั้ว* อย่างชัดเจน ระหว่างกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงและการเข้าเก็บของอย่างมีแบบแผน นักลงทุนจึงควรจับตา *ความผันผวนในระยะสั้น* ควบคู่กับโอกาสในการฟื้นตัวในระยะกลางถึงยาวอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0