ราคาบิตคอยน์(BTC) แสดงความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยยังคงถูกกดดันที่ระดับแนวต้านราว 118,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16.4 ล้านบาท) ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าตลาดกำลังเข้าสู่โซนสำคัญของ ‘แรงซื้อ-ขาย’ และทิศทางของราคาต่อไปอาจขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของสภาพคล่องในพื้นที่นี้
จากกราฟรายวัน บิตคอยน์พยายามฝ่าแนวต้านบริเวณ 118,000 ดอลลาร์หลายครั้ง ซึ่งเป็นระดับที่ทับซ้อนกับเส้นแนวโน้มขาลง แต่ล้มเหลวทุกครั้ง และต่อลงมาอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันพยุงตัวอยู่ที่โซนแนวรับระหว่าง 110,000-111,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.3-15.4 ล้านบาท) ซึ่งมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันพาดผ่าน อาจกลายเป็น ‘แนวรับระยะกลางถึงยาว’ หากไม่หลุดลงไป อย่างไรก็ตาม หากแนวรับนี้แตก ก็อาจเห็นราคาถอยลงไปถึงโซน 105,000-107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.5-14.8 ล้านบาท)
ในกราฟสี่ชั่วโมง การที่ราคาดีดตัวขึ้นเหนือแนวต้านก่อนหน้านี้ได้กระตุ้น ‘การล้างสถานะชอร์ต’ และตามมาด้วยแรงขายระยะสั้น ทำให้ราคาย้อนลงมาทดสอบบล็อคแนวรับที่ 110,000-111,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.3-15.4 ล้านบาท) การเข้าซื้อที่ระดับนี้ช่วยให้ราคาทรงตัวได้ในเบื้องต้น แต่ *หากไม่สามารถรักษาแนวรับได้* ก็มีโอกาสเกิดการปรับฐานครั้งใหม่ในระยะสั้น ขณะเดียวกัน หากราคาฟื้นตัวได้ ก็อาจกลับไปท้าทายแนวต้านที่ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16 ล้านบาท)
ในมุมมองของจิตวิทยาตลาด ‘อัตราดอกเบี้ยฟิวเจอร์ส’ หรือ Funding Rate กำลังเป็นประเด็นสำคัญ โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน บิตคอยน์แตะระดับ 120,000 ดอลลาร์ พร้อมกับการใช้อัตราทดสูงและ Funding พุ่งขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้เกิดการล้างสถานะ Long จำนวนมาก ความผันผวนจึงรุนแรงมากในช่วงนั้น ในทางกลับกัน การฟื้นตัวรอบเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเกิดขึ้นภายใต้ Funding Rate ที่มีเสถียรภาพมากกว่า ทำให้การขึ้นของราคาดู ‘แข็งแรงและยั่งยืน’ มากขึ้น
ล่าสุด Funding Rate กลับมาสูงขึ้นทีละน้อย ส่งสัญญาณว่า ‘นักลงทุนเริ่มกลับมามีความหวัง’ โดยตลาดยังไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรง แต่แนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น หาก Funding Rate ยังคงอยู่ในระดับที่สมดุลต่อไป วงการคาดว่าการยืนเหนือแนว 110,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ *บิตคอยน์กลับมาทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง* ในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0