Bybit เร่งฟื้นตัวหลังเผชิญเหตุแฮ็กครั้งใหญ่ ลงทุนซื้ออีเธอเรียม(ETH) กว่า 742 ล้านดอลลาร์
Bybit เดินหน้าฟื้นตัวจากหนึ่งในการโจมตีทางไซเบอร์ที่รุนแรงที่สุด ด้วยการเข้าซื้ออีเธอเรียม(ETH) มูลค่า 742 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคา ETH ปรับตัวขึ้นกว่า 6%
จากข้อมูลของ Lookonchain บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Bybit ได้ซื้อ ETH จำนวน 266,694 เหรียญภายหลังเหตุการณ์แฮ็ก ซึ่งในจำนวนนั้น 157,660 ETH ถูกซื้อผ่านการซื้อขายนอกตลาด (OTC) กับบริษัทคริปโตชั้นนำอย่าง Galaxy Digital, FalconX และ Wintermute ส่วนอีก 109,033 ETH ถูกซื้อผ่านตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์(CEX) และตลาดแบบกระจายอำนาจ(DEX)
เหตุการณ์แฮ็กครั้งนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮ็กเกอร์ลาซารัสจากเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้ช่องโหว่บนกระเป๋าเงินเย็นแบบมัลติซิกของ Bybit ทำให้เกิดความเสียหายสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นหนึ่งในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต ด้าน Lookonchain รายงานว่า Bybit สามารถระดมทุนจากการกู้ยืม เงินฝากของนักลงทุน และการซื้อขายโดยตรง รวมแล้ว 446,870 ETH คิดเป็นมูลค่าราว 1.23 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 87% ของมูลค่าที่ถูกแฮ็ก
เบน 저우(Ben Zhou) ซีอีโอของ Bybit ออกแถลงผ่าน Twitter ว่า "Bybit ได้กู้คืน ETH ที่สูญเสียไปทั้งหมด" และเตรียมออก 'รายงานหลักฐานสำรอง'(Proof-of-Reserve, PoR) ฉบับใหม่ เพื่อยืนยันว่าเงินฝากของลูกค้ายังคงได้รับการคุ้มครองในอัตรา 1:1 โดยรายงานดังกล่าวจะใช้การตรวจสอบแบบ Merkle Tree เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ราคา ETH ฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลง โดยดีดตัวขึ้น 6% มาที่ระดับ 2,730 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับฐานลง 2% สู่ระดับปัจจุบัน นักวิเคราะห์ทางเทคนิคคาดการณ์ว่า หากเกิดการปรับฐานลงอีก ETH อาจทดสอบแนวรับที่ 2,450 ดอลลาร์ แต่หากยังรักษาแนวโน้มขาขึ้นได้ อาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
การตอบสนองอย่างรวดเร็วของ Bybit ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน ขณะที่ตลาดยังจับตาดูว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยฟื้นคืนความไว้วางใจได้มากน้อยเพียงใด
ความคิดเห็น 0