อีเธอเรียม(ETH) พุ่งขึ้นเกือบ 9% ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ตลาดเริ่มจับตาว่าจะสามารถ *ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 5,200 ดอลลาร์* (ประมาณ 7.22 ล้านบาท) ได้หรือไม่ ซึ่งถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเริ่มต้นรอบขาขึ้นครั้งใหม่ หากทำได้ บางนักวิเคราะห์คาดว่า *ราคาของ ETH อาจพุ่งทะลุ 7,600 ดอลลาร์* (ราว 10.58 ล้านบาท) ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
โจอาว เวดสัน(Joao Wedson) ผู้ก่อตั้งและนักวิเคราะห์จาก Alphractal กล่าวว่า หากอีเธอเรียมพุ่งขึ้นทะลุระดับ 5,100 ดอลลาร์ได้ (ราว 7.08 ล้านบาท) อาจมีการ *พักฐานระยะสั้นที่ประมาณ 4,700 ดอลลาร์* (ราว 6.53 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็น "การปรับฐานอย่างมีสุขภาพดี" และจากนั้นราคาน่าจะไต่ระดับสู่เป้าหมายระยะกลางที่ 7,000–7,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.73 – 10.58 ล้านบาท) โดยเขาชี้ว่า หาก ETH ทะลุ 5,200 ดอลลาร์ได้เร็ว เราอาจได้เห็นคลื่นขาขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน
เท็ด พิลโลว์ส(Ted Pillows) นักวิเคราะห์อีกคนก็มีมุมมองที่คล้ายกัน โดยระบุว่า ปัจจุบัน *ระดับ 4,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.25 ล้านบาท)* ถือเป็นแนวต้านหลัก และหากสามารถผ่านได้ ราคาอาจพุ่งขึ้นสู่ช่วง 4,700–4,750 ดอลลาร์ (ราว 6.53 – 6.60 ล้านบาท) อย่างรวดเร็ว
ปัจจัยหนุนอีกประการคือ *การไหลเข้าของเงินทุนสถาบันสู่ ETF สปอตอีเธอเรียม* เมื่อเร็วๆ นี้ จากข้อมูลของ SoSoValue พบว่า ยอดเงินไหลเข้าสุทธิในวันเดียวแตะที่ 307 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,268 ล้านบาท) โดย *แบล็คร็อก* เข้าซื้อสูงสุดที่ 177 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,464 ล้านบาท) คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่ง ขณะที่ FETH ของ *ฟิเดลิตี้* รับเงินเข้า 60.71 ล้านดอลลาร์ และ *ETHW ของบิตไวส์* ได้รับ 46.47 ล้านดอลลาร์ ส่วน *ETF ของเกรย์สเกล* ก็มียอดไหลเข้าเกิน 12 ล้านดอลลาร์เช่นกัน ซึ่ง *สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับคืนสู่ตลาดอย่างชัดเจน*
ขณะเดียวกัน แรงกดดันด้านอุปทานที่ลดลงก็ส่งผลเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาอย่างมีนัยสำคัญ การที่ *ETH ถูกถอนออกจากกระดานเทรดแบบรวมศูนย์มากกว่าที่ไหลเข้า* ทำให้เกิดภาวะขาดแคลน โดยมี ‘ความเป็นไปได้สูง’ ที่ปริมาณเหรียญที่เคลื่อนไหวได้จะหดตัวลง และ *อาจทำให้เกิดแรงซื้อหนุนต่อราคาต่อไป* ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่ง *ตัวกระตุ้นของ ‘ค่าพรีเมียมจากความหายาก’* ในตลาด
ทั้งหมดนี้ ทั้งแนวโน้มด้านเทคนิค, การลงทุนจากสถาบัน และอุปทานที่ลดลง กำลังผสานกันเป็นพลังหนุนที่อาจ *ผลักดันอีเธอเรียมเข้าสู่จุดสูงสุดใหม่ภายในเวลาอันใกล้* โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก ETH สามารถ *ทะลุผ่านแนวต้าน 5,200 ดอลลาร์* ได้ นักลงทุนทั่วโลกต่างเฝ้ามองจุดนี้อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0