ตลาดคริปโตยังคงเร่งแรงต่อเนื่อง หลังบิตคอยน์(BTC)ทะยานขึ้นตลอดสุดสัปดาห์ จนทำสถิติมูลค่าตลาดรวมแตะระดับสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางภาวะเงียบเหงาของปฏิทินเศรษฐกิจจากผลกระทบของการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ ด้านนักลงทุนจับตานโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้
มีปัจจัยหลัก 3 ประการที่อาจส่งผลต่อตลาดในช่วงสัปดาห์นี้ ประการแรก รายงานคาดการณ์เงินเฟ้อจากธนาคารกลางนิวยอร์ก มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 8 (เวลาท้องถิ่น) โดยตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาขยับจาก 2.3% ขึ้นมาแตะ 2.9% ซึ่งเป็นผลพวงจากนโยบายภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐและจีน รายงานฉบับนี้ถือเป็น ‘คำใบ้’ สำคัญที่ Fed อาจใช้ในการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ประการที่สอง ในวันที่ 9 Fed เตรียมเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนกันยายน ตามด้วยการแถลงของประธาน Jerome Powell ในวันที่ 10 ซึ่งอาจสะท้อนถึงการเห็นต่างระหว่างกรรมการ Fed ต่อแนวนโยบายการเงินในอนาคต โดยในช่วงเดียวกัน จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนอีกด้วย ซึ่งตลาดมักใช้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐ
ประการสุดท้าย หากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐสิ้นสุดลงก่อนช่วงสุดสัปดาห์ ก็มีแนวโน้มว่ารายงานการจ้างงานเดือนกันยายนจะถูกเปิดเผย โดยตัวเลขแรงงานก่อนหน้านี้ชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนตัวลง ซึ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ของ *การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม* โดยทาง Fed นอกจากนี้ การแสดงความเห็นของ Michael Barr รองประธาน Fed และ Alberto Musalem ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ ก็อาจมีอิทธิพลต่อทิศทางของตลาดในระยะสั้น
ในด้านตลาดคริปโต ปริมาณการซื้อขายและมูลค่าตลาดยังคงเดินหน้า โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มูลค่ารวมของตลาดขยับขึ้นแตะ 4.32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,004.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งนับเป็นระดับ *สูงสุดเป็นประวัติการณ์* ทั้งนี้ บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นไปถึง 125,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.44 ล้านบาท) บนบางแพลตฟอร์ม ก่อนจะถอยลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 124,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.23 ล้านบาท)
นักวิเคราะห์มองว่าการพุ่งครั้งนี้เป็น ‘จุดเริ่มต้นของ Uptober’ หรือปรากฏการณ์บวกประจำเดือนตุลาคม และยังคงมีความเป็นไปได้ที่ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นถึง 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 20.85 ล้านบาท)
ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ก็เคยทะยานขึ้นไปเกินระดับ 4,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 638,000 บาท) ก่อนจะอ่อนลงมาเล็กน้อยที่ 4,537 ดอลลาร์ (ประมาณ 630,000 บาท) โดยอัลต์คอยน์ส่วนใหญ่อาศัยแรงหนุนจากบิตคอยน์ในการปรับตัวขึ้น แต่ต่อมาก็เริ่มเข้าสู่ภาวะปรับฐาน
แม้ภาพรวมของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่ชัดเจน แต่ *คริปโตเคอร์เรนซีแสดงศักยภาพในการตอบสนองต่อตลาดได้อย่างเป็นอิสระ* และยังคงมีลักษณะที่แตกต่างจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน นักลงทุนควรจับตาคำแถลงจากผู้บริหาร Fed ระดับสูงในสัปดาห์นี้ว่าจะส่งสัญญาณเชิงรุกหรือผ่อนคลายมากเพียงใด ความเคลื่อนไหวเหล่านี้อาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดในช่วงถัดไป
ความคิดเห็น 0