อีเธอเรียม(ETH) พุ่งขึ้นราว 12% ภายในสัปดาห์เดียว ทะลุแนวราคาสำคัญที่ระดับ 4,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.53 ล้านบาท) สร้างความหวังใหม่ให้กับนักลงทุนว่าอาจทำสถิติ *ราคาสูงสุดตลอดกาล (ATH)* ภายในเดือนนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าตุลาคม ซึ่งบางคนขนานนามว่า ‘Uptober’ อาจกลายเป็นช่วงเวลาดีของตลาดคริปโต ทั้งนี้ ความเห็นจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) 3 ตัวที่ถูกนำมาวิเคราะห์แนวโน้มของ ETH ได้รับความสนใจอย่างมาก
แชตจีพีที (ChatGPT) ชี้ให้เห็นถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่โดยเกรย์สเกลในสหรัฐฯ ซึ่งเป็น *กองทุน ETP สำหรับการฝากคริปโตแบบ Staking* ของอีเธอเรียมเป็นครั้งแรก เชื่อว่าสิ่งนี้สามารถกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและอาจเป็น ‘ตัวเร่งราคา’ สำคัญ อย่างไรก็ตาม แชตจีพีทีเตือนด้วยว่า จุดต้านสำคัญที่ระดับ 4,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.67 ล้านบาท) อาจเป็นอุปสรรคระยะสั้น พร้อมทั้งระบุว่า ETH มีแนวโน้มเคลื่อนไหว *ใกล้เคียงกับบิตคอยน์(BTC)* ซึ่งการที่ BTC เพิ่งทำสถิติใหม่ที่ระดับ 126,000 ดอลลาร์ (ราว 17.51 ล้านบาท) ก็อาจสร้างสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยให้กับ ETH ด้วย
ขณะเดียวกัน ระบบ AI ‘กร็อก (Grok)’ บนแพลตฟอร์มโซเชียล X ก็ออกมาแสดงมุมมองเชิงบวก คาดว่า ETH มีแนวโน้มขยับขึ้นไปแตะ 5,000–5,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.95–7.64 ล้านบาท) ภายในกลางเดือนตุลาคม โดยอ้างอิงตามปัจจัยตามฤดูกาลและเงินทุนไหลเข้าอย่างแข็งแกร่งจาก ETF แบบซื้อขายจริง (Spot ETF) อย่างไรก็ตาม กร็อกเน้นย้ำถึงความผันผวน โดยแนะให้นักลงทุนจับตา *แนวรับที่ระดับ 4,375 ดอลลาร์* (ราว 6.07 ล้านบาท) และหากต้องการลงทุนอย่างรอบคอบ ควรให้ความสนใจที่แนวรับระดับ 4,450 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.18 ล้านบาท)
ด้าน AI ‘เพอร์เพล็กซิตี้ (Perplexity)’ ประเมินว่า ETH มีโอกาสถึง *70% ที่จะทำ ATH ใหม่* ภายในเดือนนี้ โดยหากโมเมนตัมเชิงบวกยังดำเนินต่อไป ราคาของ ETH อาจแตะ 7,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 10.42 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีบทวิเคราะห์ที่เสริมมุมมองว่า ETH อาจเปิดฉาก ‘รอบวิ่งแรงผิดปกติ’ ด้วย
ในเวลาเดียวกันบนแพลตฟอร์ม X ผู้เชี่ยวชาญชื่อว่า คริปโต โรเวอร์ (Crypto Rover) แสดงความเห็นว่า ETH *อาจพุ่งสูงถึง 10,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 13.9 ล้านบาท) โดยให้เหตุผลว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบาย ก็อาจเป็นแรงส่งให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโตเข้าสู่รอบฟื้นตัว จากรายงานล่าสุด คาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการตลาดเสรี (FOMC) ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้มี *โอกาสสูงถึง 90% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%* ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนกู้ยืมและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด สร้างแรงจูงใจต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทั้งความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและ AI ต่างก็ประเมินว่าอีเธอเรียมยังมี *ศักยภาพในการปรับตัวขึ้นต่อ* ได้อย่างมีนัยสำคัญ และเดือนตุลาคมนี้อาจกลายเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* สำหรับนักลงทุน ETH ในรอบปีนี้
ความคิดเห็น 0