ซาเอะ ทาคาอิจิ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากชุมชนคริปโต เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าเธออาจเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงด้าน ‘การปรับปรุงกฎระเบียบอย่างรอบคอบ’ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมคริปโตในประเทศ ท่ามกลางการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายว่า ญี่ปุ่นอาจผงาดขึ้นเป็น ‘ศูนย์กลางใหม่ระดับโลก’ สำหรับบริษัทคริปโตในอนาคตอันใกล้นี้
ซาเอะ ทาคาอิจิได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น(LDP) เมื่อวันที่ 15 และเตรียมเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ตุลาคม ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ภายใต้การนำของทาคาอิจิ ญี่ปุ่นจะยังคงควบคุมดูแลอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเข้มงวดตามแนวทางเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็น่าจะมี ‘ท่าทีเปิดรับ’ ต่อการทดลองเทคโนโลยีใหม่อย่าง *บล็อกเชน* มากขึ้น เอลิเซนดา ฟาบรกา หัวหน้าที่ปรึกษาด้านกฎหมายจากบริษัทบริกเคน(Brickken) เปิดเผยว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งอิทธิพลเชิงบวกทั้งต่อมุมมองและนโยบายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของญี่ปุ่น"
ฟาบรกาอธิบายเพิ่มเติมว่า ทาคาอิจิเป็นผู้ที่สนับสนุนแนวคิด ‘อธิปไตยทางเทคโนโลยี’ มาโดยตลอด โดยมองว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น บล็อกเชน ถือเป็นเรื่องสำคัญในเชิงกลยุทธ์ เธอยังระบุอีกว่า “จากมุมมองด้านกฎหมาย คณะรัฐมนตรีของทาคาอิจิน่าจะไม่เพียงแค่ยอมรับเศรษฐกิจดิจิทัล แต่จะผลักดันมันอย่างแข็งขัน”
จุดยืนทางการเมืองของทาคาอิจิที่เน้นการสร้าง ‘ฐานกฎหมายที่ชัดเจน’ สำหรับวงการคริปโต สร้างภาพของญี่ปุ่นในฐานะ ‘ประเทศที่เป็นมิตรต่อการพัฒนาเทคโนโลยี’ ซึ่งอาจกลับมาดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกอีกครั้ง พร้อมทั้งเปิดประตูให้แก่บริษัทคริปโตระดับนานาชาติ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีขั้นสูง
แม้ว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีต่อกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลของญี่ปุ่นจะยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ แต่แนวทางที่ผสมผสานระหว่าง ‘ความชัดเจนทางกฎหมาย’ กับ ‘การเปิดกว้างต่อเทคโนโลยีล้ำหน้า’ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า ญี่ปุ่นอาจกลายเป็น ‘มหาอำนาจด้านคริปโตระดับโลก’ ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0