ริปเปิล(XRP) ร่วงหนักภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สร้างแรงสะเทือนไปทั่วตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยข้อมูลจากไบแนนซ์ สหรัฐฯ ระบุว่า ราคาของริปเปิลเคยร่วงลงแตะระดับ 1.2 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,668 บาท) ก่อนที่จะดีดกลับมาซื้อขายอยู่ราว 2.4 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,336 บาท) การดิ่งลงรอบนี้ได้ส่งผลให้มีการบังคับปิดโพซิชันแบบเลเวอเรจเป็นวงกว้าง คิดเป็นมูลค่าราว 700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,730 ล้านบาท) ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสภาพตลาดโดยรวม
การปรับตัวลงอย่างรุนแรงครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับริปเปิลเพียงรายเดียว แต่ยังเป็นผลจาก *แรงขายจำนวนมาก* และการชำระโพซิชันแบบเลเวอเรจที่ล้นตลาด โดยเฉพาะเมื่อบิตคอยน์(BTC) ร่วงจาก 122,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.9 ล้านบาท) สู่ระดับ 105,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.6 ล้านบาท) ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง จึงเกิด *การเทขายตระหนก* ลุกลามไปยังเหรียญอื่น โดยเฉพาะอัลท์คอยน์ซึ่งมีการร่วงแรงกว่าบิตคอยน์
กรณีของโครงการคอสมอส(ATOM) นั้นยิ่งตอกย้ำความผันผวนแบบสุดขั้ว เมื่อราคาทรุดลงถึง 99% ในเวลาเพียงหนึ่งวันก่อนจะฟื้นตัวกลับมา เหตุการณ์นี้ส่งผลให้สินทรัพย์อย่างอีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL) และโดจคอยน์(DOGE) เผชิญกับ *ความสูญเสียมหาศาล* โดยไม่มีการยกเว้น ทำเอานักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่ต่างถูกบีบให้ออกจากตลาดพร้อมกัน ผู้เชี่ยวชาญหลายรายมองว่า สถานการณ์นี้เป็น *สัญญาณเตือนซ้ำ* ถึงความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจภายในตลาดคริปโต
ถึงแม้จะไม่มีโครงการใดเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนของวิกฤตครั้งนี้ แต่ข้อมูลชี้ว่า แรงกระแทกเกิดจากการชำระโพซิชันทั่วทั้งตลาด ประกอบกับสภาพคล่องที่ต่ำในกระดานคำสั่งซื้อขาย (Order Book) ซึ่งทำให้การขายเพียงเล็กน้อยสามารถกดราคาได้ลึกกว่าปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มอัลท์คอยน์ที่มีคำสั่งซื้อรองรับไม่มากนัก
มีรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ถือครองริปเปิลรายใหญ่มีการเทขายเหรียญออกมาราว 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 695 ล้านบาท) ต่อวัน ซึ่งอาจส่งผลต่อ *แรงกดดันขาลง* มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม บางบทวิเคราะห์มองว่า หาก XRP สามารถยืนเหนือระดับ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) ได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่ *แนวโน้มขาขึ้นระลอกใหม่*
ท่ามกลางภาวะตลาดที่มี *ความผันผวนในระดับสูงสุด* นักเทรดคริปโตจึงจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการใช้เลเวอเรจอย่างรอบคอบมากขึ้น เหตุการณ์ล่าสุดถือเป็นบทเรียนอีกครั้งว่า ตลาดคริปโตสามารถลบมูลค่านับแสนล้านบาทได้เพียงชั่วข้ามคืน และอาจกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกหนึ่งหน้าในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0