บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างรวดเร็ว โดยลดลงมาอยู่ในระดับต้นของ 90,000 ดอลลาร์ นำไปสู่การชำระบัญชีครั้งใหญ่ทั่วทั้งตลาด ส่งผลให้มีการปิดสถานะมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36,000 ล้านบาท) ภายในวันเดียว
บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นไปแตะ 99,500 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมแนวโน้มที่มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม ราคากลับร่วงลงอย่างหนักหลังเกิดเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ โดยเฉพาะจากกรณีแพลตฟอร์มไบบิต(Bybit) ถูกขโมยสินทรัพย์มูลค่ากว่า 1,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,400 ล้านบาท) ซึ่งเป็นปัจจัยลบสำคัญต่อบิตคอยน์ ทำให้ราคาร่วงลงถึง 95,000 ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวจำกัดในช่วง 96,000 ดอลลาร์ตลอดช่วงสุดสัปดาห์
ในเช้าวันที่ 25 บิตคอยน์กลับมาเผชิญแรงขายอย่างหนักอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาร่วงไปอยู่ในช่วงต้นของ 90,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ รวมแล้วบิตคอยน์ปรับตัวลดลงกว่า 9,000 ดอลลาร์นับตั้งแต่วันศุกร์
ตลาดอัลต์คอยน์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยอีเธอเรียม(ETH), ด็อกคอยน์(DOGE), โซลานา(SOL), เชนลิงค์(LINK), คาร์ดาโน(ADA), ริปเปิล(XRP), สเตลลาร์(XLM), อวาลานเช(Avalanche: AVAX) และไลต์คอยน์(LTC) ต่างปรับตัวลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก สะท้อนถึงภาวะขาลงที่เกิดขึ้นทั้งตลาด
จากความผันผวนรุนแรงครั้งนี้ ทำให้การชำระบัญชีพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ภายใน 24 ชั่วโมง มีสถานะถูกชำระบัญชีไปแล้วกว่าพันล้านดอลลาร์ โดยกว่า 950 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 34,200 ล้านบาท) เป็นสถานะ Long ที่ถูกบังคับปิด โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มไบแนนซ์(Binance) ซึ่งมีการชำระสถานะเดี่ยวมูลค่าถึง 15 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 540 ล้านบาท)
ข้อมูลจากโคอินกลาส(CoinGlass) ระบุว่า ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีเทรดเดอร์มากกว่า 310,000 คนถูกชำระบัญชีและขาดทุนอย่างหนัก แม้ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความผันผวนอาจยังคงดำเนินต่อไป แต่บางส่วนเชื่อว่านี่อาจเป็นเพียงช่วงปรับฐานชั่วคราวของตลาดกระทิงที่ยาวนาน
ความคิดเห็น 0