แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของริปเปิล ได้ออกมายืนยันอีกครั้งถึง ‘ความสำคัญเชิงกลยุทธ์’ ของริปเปิล(XRP) โดยระบุว่า XRP ยังคงเป็นแกนกลางของทุกสิ่งที่บริษัทดำเนินการ และจะยังคงอยู่ในจุดนี้ต่อไป การแสดงจุดยืนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ ริปเปิลเพิ่งประกาศปิดดีลการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่
เมื่อเร็วๆ นี้ ริปเปิลได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทนายหน้าสถาบัน Hidden Road พร้อมรีแบรนด์ใหม่ในชื่อ ‘ริปเปิล ไพรม์(Ripple Prime)’ โดยตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มให้บริการทางการเงินแก่สถาบันที่ใช้ประโยชน์จาก XRP เพื่อเพิ่ม ‘สภาพคล่อง’ และปูโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินระดับโลก บริษัทเปิดเผยว่า ริปเปิล ไพรม์ จะผสานการใช้งานกับ XRP เพื่อสร้าง ‘ระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง’ ขึ้นมา โดยมองว่า XRP จะเป็น ‘จุดเชื่อมโยง’ สำคัญระหว่างบริการใหม่ๆ
นอกจากนี้ ริปเปิลยังเข้าร่วมลงทุนใน ‘เอเวอร์นอร์ธ(Evernorth)’ บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่เน้นการดำเนินงานผ่านพันธบัตร XRP ร่วมกับบริษัทใหญ่อย่าง พาเนร่า แคปิตอล และเอสบีไอ โฮลดิ้งส์ โดยมุ่งสร้างแพลตฟอร์ม ‘การลงทุนสำหรับสถาบัน’ ที่มี XRP เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการบริหารปริมาณ XRP อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการสภาพคล่องของสถาบันในระยะยาว ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการเสริมความ ‘มั่นคงของอุปทาน’ และการผลักดัน ‘อุปสงค์’ ของ XRP อย่างมีระบบ
การ์ลิงเฮาส์เคยกล่าวไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนว่า XRP เป็นมากกว่า ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ แต่เป็น ‘หัวใจของการปฏิวัติระบบชำระเงินระดับโลก’ ซึ่งหากดูจากแนวโน้มล่าสุดของริปเปิล การมุ่งหน้าสู่ธุรกิจที่วาง XRP ไว้ตรงกลางนั้นกำลังกลายเป็นความจริงอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ XRP กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากสหรัฐอเมริกาอนุมัติกองทุน ETF แบบสปอตของ XRP เป็นครั้งแรก ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าบริษัทจัดการสินทรัพย์กำลังมองเห็น ‘เสถียรภาพและศักยภาพการขยายตัว’ ของ XRP และริปเปิลเองก็น่าจะใช้โอกาสนี้ในการรุกเข้าสู่ตลาดสถาบันอย่างจริงจัง ซึ่งในมุมมองของหลายฝ่าย คำพูดของการ์ลิงเฮาส์ครั้งนี้จึงอาจไม่ใช่แค่การแสดงท่าทีทั่วไป แต่เป็น ‘ถ้อยแถลงเชิงกลยุทธ์’ ที่ชี้ให้เห็นว่า XRP จะเดินหน้าเป็นศูนย์กลางของริปเปิลในระยะยาวต่อไป
ความคิดเห็น 0