ริปเปิล(Ripple) เดินหน้าเร่งเครื่องขยายการใช้งานของริปเปิล(XRP) และสเตเบิลคอยน์อย่าง ‘ริปเปิลดอลลาร์(RLUSD)’ ในระดับองค์กร หลังประกาศเข้าซื้อกิจการ ‘ฮิดเดนโรด’ ซึ่งเป็นบริษัทด้าน ‘ไพรม์โบรกเกอร์’ สำหรับนักลงทุนสถาบัน โดยยอดผู้บริหารจากญี่ปุ่นอย่างโยชิทากะ คิตาโอะ(Yoshitaka Kitao) ซีอีโอของเอสบีไอโฮลดิงส์(SBI Holdings) สนับสนุนความเคลื่อนไหวนี้อย่างเต็มที่ โดยเรียกดีลดังกล่าวว่าเป็น “จุดเปลี่ยนของยุคการเงินดิจิทัล”
ฮิดเดนโรดเป็นบริษัทไพรม์โบรกเกอร์ที่ไม่ได้มีใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร แต่ให้บริการกับลูกค้านักลงทุนสถาบันมาโดยเฉพาะ การเข้าซื้อครั้งนี้ทำให้บริษัทจะถูกรีแบรนด์ใหม่เป็น ‘ริปเปิลไพรม์(Ripple Prime)’ พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มไพรม์โบรกเกอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มตัว จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือการรวมฟีเจอร์ชำระเงินคริปโต การเก็บรักษาสินทรัพย์ (custody) และการรองรับคอยน์อย่าง RLUSD ในระบบโครงสร้างพื้นฐานเดียว
ตัวแทนจากริปเปิลเผยว่า “การควบรวมกับฮิดเดนโรดเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์การขยายกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ต้องการใช้ XRP และ RLUSD” โดยเฉพาะ RLUSD ที่ในขณะนี้เริ่มถูกนำไปใช้เป็น *หลักประกันในผลิตภัณฑ์ลงทุนระดับไพรม์* และมีแนวโน้มจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในตลาดสถาบันในอนาคต ด้านโยชิทากะ คิตาโอะ แสดงความคิดเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “เรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่บริการทางการเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของระบบ”
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญคือโครงการความร่วมมือทางวิชาการ ‘UBRI’ (University Blockchain Research Initiative) ของริปเปิล ที่สำหรับรอบนี้จะอัดฉีดงบวิจัยราว 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20.85 ล้านบาท) โดยใช้ ‘RLUSD’ เป็นสกุลเงินหลัก ทั้งนี้ยังมีพันธมิตรใหม่อย่างมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก และได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีอย่างเดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) ผู้ร่วมก่อตั้ง XRP Ledger
การเคลื่อนไหวของริปเปิลในครั้งนี้ตอกย้ำถึง *ศักยภาพการใช้งานจริงของ XRP และ RLUSD* ในแง่ของเศรษฐกิจจริงและบริการทางการเงินสำหรับองค์กรท่ามกลางกระแสการบูรณาการระหว่างคริปโตกับการเงินดั้งเดิม โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่า กลยุทธ์สองทางของริปเปิล ทั้งการรุกไพรม์โบรกเกอร์และการเสริมรากฐานวิชาการในอุตสาหกรรม อาจกลายเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับการขยายตลาดคริปโตในระดับโลก
ความคิดเห็น 0