บิตคอยน์(BTC) แม้จะเผชิญแรงปรับฐานในระยะสั้น แต่ยังคงแสดงให้เห็นถึง *พื้นฐานที่แข็งแกร่ง* ในระยะยาว ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโต นักลงทุนจำนวนมากมองว่าการเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์ในตอนนี้เป็นเพียง *การหมุนเวียนของสภาพคล่อง* ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตลาด
เมื่อวันที่ 30 บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 107,500 ดอลลาร์ หรือราว 14.96 ล้านบาท ซึ่งแม้จะลดลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 126,000 ดอลลาร์ (17.51 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม แต่หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนก็ยังเพิ่มขึ้นกว่า 52% โดยปีก่อนในวันที่ 31 ตุลาคม บิตคอยน์มีราคาอยู่ที่ 72,350 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10.79 ล้านบาท
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ ปิแอร์ โรชาร์ด ระบุว่า การปรับฐานนี้มีสาเหตุหลักจาก *นักลงทุนรายใหญ่ที่ถือครองมานานกว่า 10 ปีเริ่มขายทำกำไร* ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนหันไปสนใจหุ้นกลุ่ม AI อย่างเช่น *เอ็นวีเดีย* และสินทรัพย์อื่นอย่างทองคำ แต่ตามความเห็นของเขา การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียง *แรงกดดันชั่วคราว* และไม่กระทบต่อ *คุณค่าพื้นฐานของบิตคอยน์ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง*
ในโลกโซเชียลก็มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ใช้งานรายหนึ่งใน X (Twitter เดิม) มองว่านี่เป็นเพียง *การหมุนเวียนของเม็ดเงิน* ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และเมื่อสภาพคล่องกลับมา พร้อมกับสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจที่เป็นบวก นักลงทุนจะหันกลับมายัง *สินทรัพย์หายากและเป็นกลางเช่นบิตคอยน์*
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ออนเชน *Glassnode* เปิดเผยว่า ในรอบวัฏจักรนี้ นักลงทุนระยะยาวที่ถือบิตคอยน์มานานกว่า 155 วัน ได้ทำกำไรกว่า 3.27 ล้าน BTC ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา (ยกเว้นรอบปี 2017) อีกทั้ง *อัตราส่วน MVRV ที่ปรับแล้ว* ยังอยู่ในระดับมั่นคง แสดงถึง *ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังไม่สั่นคลอน*
ด้านทองคำซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงถึง 29 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 4.03 ตันล้านบาท) ก็กลับมาโดดเด่นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 56% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามค่า *RSI ที่สูงถึง 91.8* ส่งสัญญาณภาวะฟองสบู่ ทำให้บางฝ่ายคาดว่าเม็ดเงินอาจไหลกลับเข้าสู่บิตคอยน์ในไม่ช้า
ส่วน *นักลงทุนสถาบัน* เองก็เริ่มขายทำกำไรเมื่อราคาบิตคอยน์เข้าใกล้ระดับ 120,000 ดอลลาร์ โดยรายงานเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมเผยว่า บริษัทลงทุนรายใหญ่ อาทิ *Galaxy Digital* ได้ลดการถือครอง ซึ่งมองว่าเป็นการขายเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่การถอนตัวแบบถาวร
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองภาพรวมว่า ตลาดบิตคอยน์กำลังเข้าสู่ *ช่วงเย็นตัวปกติหลังจากการพุ่งแรง* โดย *แดเนียล ซชินเคล* เทรดเดอร์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือกล่าวว่า แม้สภาพคล่องจะลดลงในระยะสั้น แต่ *ไม่กระทบต่อจุดแข็งด้านโครงสร้างของบิตคอยน์* พร้อมชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบในระยะยาวอย่าง *จำนวนเหรียญที่จำกัด*, ความสามารถในการลงทุนผ่าน ETF และการเป็น *เครื่องมือชำระเงินที่เป็นกลางมากขึ้น*
ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด บิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 108,201 ถึง 113,567 ดอลลาร์ (ราว 15.07–15.98 ล้านบาท) ลดลง 2.6% แต่หากดูในภาพรวมรายสัปดาห์ยังปรับขึ้น 1.2% ขณะที่ในรอบเดือนล่าสุดลดลง 3.4% แต่ก็ยังเหนือกว่าการเติบโตเฉลี่ยของตลาดคริปโตที่ 0.9%
*ความคิดเห็น:* การปรับฐานล่าสุดไม่น่ากังวลสำหรับนักลงทุนระยะยาว เพราะไม่กระทบต่อโครงสร้างการเติบโตของบิตคอยน์ ในภาวะที่สินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างทองคำแสดงสัญญาณ *ความร้อนแรงเกินไป* ก็น่าจับตามองว่าทุนจะหมุนกลับสู่ *สินทรัพย์ดิจิทัลที่หายากอย่างบิตคอยน์* และกลายเป็นตัวเลือกทางการลงทุนอันดับต้นๆ ในระยะถัดไปหรือไม่
 
                     
                                             
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                         
                                                         
                                                         
                                                         
                                                         
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                
ความคิดเห็น 0