แบล็คร็อกกระตุ้นความวิตกในตลาด หลังขายบิตคอยน์และอีเธอเรียมมูลค่ากว่า 673 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 6 แพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชนระดับโลก Lookonchain รายงานว่า แบล็คร็อก บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ดำเนินการขายบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ในปริมาณมากผ่านกระเป๋า Coinbase Prime มูลค่ารวมประมาณ 673 ล้านดอลลาร์ หรือราว 903,000 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดคริปโตอย่างมาก
ธุรกรรมวันดังกล่าวประกอบด้วยการโอนบิตคอยน์จำนวน 4,653 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 478.5 ล้านดอลลาร์ และอีเธอเรียมจำนวน 57,455 ETH คิดเป็นมูลค่าราว 194.9 ล้านดอลลาร์ ไปยังที่อยู่กระเป๋าเดียวกัน นอกจากนี้ ในวันก่อนหน้า แบล็คร็อกยังได้โอนอีเธอเรียมอีก 34,777 ETH มูลค่าราว 114.97 ล้านดอลลาร์ ไปยังที่อยู่เดียวกัน ทำให้บ่งชี้ว่ากลุ่มบริษัทกำลังดำเนินการ 'ขายแบบเป็นระบบ' มากกว่าเพียงแค่การซื้อขายชั่วคราว
การจัดเรียงธุรกรรมในลักษณะนี้ โดยมีการแบ่งล็อตประมาณ 300 BTC หรือ 10,000 ETH ต่อชุด บ่งชี้ถึงกลยุทธ์การขายที่วางแผนไว้อย่างดี ซึ่งอาจเป็นการปรับพอร์ตการลงทุนในระดับองค์กร หรือเป็นการจัดหาสภาพคล่องสู่ตลาดคริปโต ความเคลื่อนไหวของแบล็คร็อกยังดึงดูดความสนใจ เนื่องจากบริษัทเป็นผู้จัดการกองทุน ETF บิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเพิ่งเปิดตัวอีเธอเรียมสปอต ETF ไปเมื่อไม่นานมานี้
ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ อาจเป็นเพียงการปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ภายในกองทุน ETF โดยไม่ได้บ่งบอกถึงมุมมองเชิงลบต่อคริปโตโดยรวม อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในภาวะซบเซา การเทขายของแบล็คร็อกกลับยิ่งสร้างแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
เมื่อตลาดปรับตัวลงรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา การขายในระดับนี้จึงจุดชนวนความตระหนก โดยเฉพาะในกลุ่มอัลท์คอยน์หลัก ที่ราคาตกลงจนอยู่ในภาวะ 'ปรับฐานครั้งใหญ่' ตามการประเมินของนักวิเคราะห์ตลาดบางราย ความหวาดกลัวว่า หากแม้แต่แบล็คร็อกยังลดการถือครอง อาจยิ่งทำให้การฟื้นตัวของตลาดเป็นไปได้ยากในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าการขายสินทรัพย์นี้เป็นเพียงการ ‘ปรับพอร์ต ETF’ หรือเป็นการ ‘ตัดขาดทุน’ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนคือแรงกระเพื่อมทางจิตวิทยาที่เกิดขึ้นในตลาด หากมีธุรกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำ ตลาดอาจตอบสนองอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0