รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ได้ดำเนินการ *ธุรกรรมอย่างเป็นทางการครั้งแรก* โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ที่ใช้ชื่อว่า ‘ดิจิทัลดิแรห์ม’ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญนับตั้งแต่มีการประกาศโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยการใช้งานจริงในครั้งนี้ได้รับความสนใจมาก เนื่องจากเป็นการยืนยันถึงการทดลองใช้ในโลกแห่งความจริง
เมื่อวันที่ 11 (เวลาท้องถิ่น) กระทรวงการคลังของ UAE และกรมการคลังดูไบ รายงานว่า ได้ดำเนินการโอนเงินระหว่างหน่วยงานรัฐบาลภายในประเทศโดยใช้ *ดิจิทัลดิแรห์ม* ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทดลองในเฟสแรกของโครงการ โดยใช้แพลตฟอร์ม *mBridge* ซึ่งเป็นโครงข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศด้วย CBDC ที่มีความร่วมมือจากหลายประเทศ
การทดลองในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของรัฐบาล UAE ในการขยายการใช้งาน *สกุลเงินดิจิทัลของรัฐ* ไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตามคำแถลงของทางการ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงของระบบการชำระเงิน
ธนาคารกลางของ UAE เคยประกาศเมื่อเดือนมีนาคมว่า จะเริ่มใช้งานดิจิทัลดิแรห์มในวงกว้างในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 ดังนั้น ธุรกรรมแรกในครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์จากการเตรียมความพร้อมทางเทคโนโลยีและการวางนโยบายที่เริ่มเดินหน้าอย่างจริงจัง
สำหรับ *สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง(CBDC)* นั้น กำลังได้รับความสนใจจากรัฐบาลทั่วโลกในฐานะเครื่องมือที่สามารถแปลงสกุลเงินประจำชาติให้เป็นดิจิทัล ซึ่งช่วยเพิ่ม *ประสิทธิภาพ* ลดต้นทุน และกระตุ้นระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีความต้องการด้านการชำระเงินระหว่างประเทศและการส่งเงินกลับประเทศค่อนข้างสูง
กรณีของ UAE ยังถือเป็นครั้งแรกที่มีการดำเนินการชำระเงินระหว่างรัฐบาลผ่านระบบ *mBridge* ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาร่วมกันโดยหลายประเทศ รวมถึงจีน เพื่อรองรับการโอนเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์และการชำระเงินสำหรับการค้าระหว่างประเทศในอนาคต
แม้ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรก่อนที่จะขยายสู่การใช้งานโดยภาคประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ แต่ธุรกรรมในครั้งนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึง ‘ศักยภาพ’ ของการใช้เงินดิจิทัลของภาครัฐ และอาจกลายเป็น *แรงผลักดันสำคัญ* ต่อการพัฒนาโครงการ CBDC ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและตลาดเกิดใหม่ในอนาคต
ความคิดเห็น 0