สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(Standard Chartered) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาบิตคอยน์(BTC) อย่างมีนัยสำคัญ โดยเจฟฟรีย์ เคนดริก(Geoffrey Kendrick) หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคาร คาดการณ์ว่าบิตคอยน์อาจทะลุ ‘200,000 ดอลลาร์’ ในปีนี้ และแตะระดับ ‘500,000 ดอลลาร์’ ภายในสิ้นวาระที่สองของประธานาธิบดีทรัมป์
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เคนดริกให้เหตุผลว่า การไหลเข้าของ ‘นักลงทุนสถาบัน’ และ ‘กฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น’ เป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาบิตคอยน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอนุมัติ ‘กองทุน ETF’ และการเข้ามาของสถาบันการเงินรายใหญ่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาด
แม้ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะยังคงมีความผันผวนสูง แต่มีการคาดการณ์ว่าการมีส่วนร่วมของสถาบันการเงินจะช่วยเพิ่มความเสถียรในระยะยาว สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดยังระบุว่า การที่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มให้บริการ ‘ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล’ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการแฮ็กและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์ได้ทำสถิติสูงสุดที่ ‘109,000 ดอลลาร์’ เมื่อต้นปี ก่อนจะลดลงสู่ระดับ ‘80,000 ดอลลาร์’ หลังจากทรัมป์ยืนยันนโยบายภาษีศุลกากรต่อ ‘จีน’ นักวิเคราะห์มองว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาบิตคอยน์กำลังสะท้อนความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นกับ ‘สภาพคล่องทั่วโลก’ และตลาดการเงินแบบดั้งเดิม
ขณะเดียวกัน เจมี่ คูตส์(Jamie Coutts) หัวหน้านักวิเคราะห์คริปโตของ ‘Real Vision’ กล่าวว่า การที่ ‘ธนาคารกลางทั่วโลก’ เริ่มขยายสภาพคล่อง อาจเป็นปัจจัยหนุนบิตคอยน์ในระยะยาว แต่ยังมีเงื่อนไขว่าต้องเกิด ‘ภาวะอ่อนค่าต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐ’
แม้ว่าความเห็นเกี่ยวกับราคาบิตคอยน์ที่ ‘500,000 ดอลลาร์’ ยังคงแตกต่างกัน แต่แนวโน้มการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจสนับสนุนการเติบโตของตลาดในระยะยาว 🚀
ความคิดเห็น 0