บิตคอยน์(BTC) ร่วงหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดคริปโตเผชิญความผันผวนรุนแรง โดยราคาลดลงจาก 99,000 ดอลลาร์ เหลือเพียง 79,000 ดอลลาร์ภายใน 8 วัน ทำให้แรงหนุนจาก ‘นโยบายที่สนับสนุนคริปโต’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ถูกลบล้างไปเกือบหมด นักลงทุนจึงเฝ้าจับตาว่าการร่วงครั้งนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่
ราคาบิตคอยน์ร่วงกว่า 5% ภายใน 24 ชั่วโมง สร้างจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 79,263 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกำแพงภาษีที่ทรัมป์อาจดำเนินการสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ กระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดอย่างมาก นอกจากนี้ ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ ดิ่งลงสู่ระดับ 21 จุด ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี บ่งชี้ถึงภาวะตลาดที่อ่อนไหวอย่างรุนแรง
แรงขายจากนักลงทุนระยะสั้นก็มีบทบาทสำคัญต่อการดิ่งลงของบิตคอยน์ ข้อมูลจาก Glassnode เผยว่าภายใน 3 วันที่ผ่านมา นักลงทุนระยะสั้นขาดทุนรวมกว่า 2.16 พันล้านดอลลาร์จากการขายเหรียญออกไป โดยนักลงทุนที่เพิ่งเข้าซื้อภายใน 1 สัปดาห์ สูญเสียไป 927 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ผู้ที่ถือเหรียญไม่เกิน 1 เดือน ขายออกไปพร้อมกับขาดทุนกว่า 678 ล้านดอลลาร์
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดคริปโตสั่นคลอน คือท่าทีล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) ที่ประกาศว่า ‘มีก’ ไม่เข้าข่ายหลักทรัพย์ แม้คำประกาศนี้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่กลับกระตุ้นให้เกิดความไม่มั่นใจในนักลงทุน เนื่องจากการขาดกฎระเบียบที่ชัดเจนทำให้บางส่วนเลือกที่จะถอนการลงทุนออกไปก่อน
นักลงทุนยังผิดหวังจากนโยบายคริปโตของทรัมป์ แม้เขาจะให้การสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแข็งขัน แต่นโยบายต่างๆ ยังคงล่าช้า ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรในตลาด
ราคาบิตคอยน์ที่ลดลงยังฉุดให้เหรียญอื่นๆ ตกตามไปด้วย อีเธอเรียม(ETH) ดิ่ง 7.5% ริปเปิล(XRP) ลดลง 8.2% และโซลานา(SOL) ร่วงเกือบ 9% ตลาดคริปโตโดยรวมจึงอยู่ในช่วงขาลง
นักวิเคราะห์แบ่งมุมมองเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคาดว่าบิตคอยน์อาจฟื้นตัวจากระดับปัจจุบัน ขณะที่อีกฝ่ายเตือนถึงโอกาสที่ราคาจะลดลงสู่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ สะท้อนจากตลาดออปชันที่เริ่มมีนักลงทุนเข้ามาวางเดิมพันในแนวโน้มดังกล่าวมากขึ้น
โดยรวมแล้ว ตลาดบิตคอยน์ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และนโยบายของทรัมป์จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของราคาต่อไป
ความคิดเห็น 0