Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

โซนิกเชน(Sonic Chain) โปรเจกต์ใหม่จากแฟนทม พัฒนาภายใต้การนำของอันเดร ครอนเย

Mon, 03 Mar 2025, 07:24 am UTC

โซนิกเชน(Sonic Chain) โปรเจกต์ใหม่จากแฟนทม พัฒนาภายใต้การนำของอันเดร ครอนเย / Tokenpost

จากรายงานของ BloFin พบว่า โซนิกเชน(Sonic Chain) กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะโปรเจกต์ต่อยอดของแฟนทอม(Fantom) โดยจุดเด่นของโซนิกเชนคือความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 10,000 รายการต่อวินาที(TPS) และความเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับอีเธอเรียมเวอร์ชวลแมชชีน(EVM) นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งดีไฟ(DeFi) และ NFT โดยมีอันเดร ครอนเย(Andre Cronje) เป็นแกนหลักของการพัฒนา

โซนิกเชนได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการขยายตัวและความยั่งยืนที่แฟนทอมเคยเผชิญ แฟนทอมเปิดตัวในปี 2019 พร้อมเทคโนโลยียูแดก(DAG) และกลไกฉันทามติลาเชซิส(Lachesis) ซึ่งช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม อย่างไรก็ตาม เมื่อเครือข่ายเติบโต ปัญหาคอขวดเริ่มปรากฏ ส่งผลให้ต้องมีโซลูชันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น ในปี 2024 มูลนิธิแฟนทอม(Fantom Foundation) จึงทำการรีแบรนด์เป็นโซนิกแล็บส์(Sonic Labs) และเปิดตัวโซนิกเชนอย่างเป็นทางการ

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของโซนิกเชนคือ "โมเดลสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม(Fee Monetization)" ซึ่งอนุญาตให้ส่งคืนค่าธรรมเนียมธุรกรรมสูงสุดถึง 90% ให้แก่ผู้พัฒนา ทั้งนี้ โซนิกเชนยังคงรองรับ EVM อย่างสมบูรณ์ ทำให้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์(dApp) บนแฟนทอมสามารถย้ายมาใช้งานได้ง่าย รายงานจาก BloFin คาดการณ์ว่าโซนิกเชนจะใช้โครงสร้างพื้นฐานที่แฟนทอมสร้างไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงการ

โครงการที่สำคัญของโซนิกเชนประกอบด้วย 'ชาโดว์เอ็กซ์เชนจ์(Shadow Exchange)' ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนแบบไร้ศูนย์กลาง(DEX) ที่ใช้โมเดลสภาพคล่องแบบรวมศูนย์(concentrated liquidity) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ให้บริการสภาพคล่อง และ 'โซนิกเกตเวย์(Sonic Gateway)' ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมข้ามเชนระหว่างโซนิกเชนและอีเธอเรียม ทำให้สามารถโอนสินทรัพย์ข้ามเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว

การที่ครอนเยเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี(CTO) ของโซนิกเชนยิ่งทำให้โปรเจกต์นี้เป็นที่น่าสนใจ โดยก่อนหน้านี้ เขามีบทบาทสำคัญในการสร้าง Yearn Finance(YFI), Keep3r Network และ Solidly รวมถึงมีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาแฟนทอม และการที่เขากลับมาร่วมงานกับโซนิกแล็บส์อีกครั้งในปี 2024 อาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของโครงการ ตามการวิเคราะห์ของ BloFin

โดยสรุป โซนิกเชนมุ่งเน้นไปที่การสร้างเครือข่ายที่เร็วและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากค่าธรรมเนียมต่ำและโครงสร้างจูงใจที่เป็นมิตรต่อผู้พัฒนา ด้วยการนำของครอนเย โซนิกเชนอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเครือข่ายเลเยอร์ 1 โดยมีบทบาทสำคัญในตลาดดีไฟและ NFT ในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1