หลังจากที่แนวโน้มทางกฎหมายในสหรัฐฯ มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ‘อัพโฮลด์(Uphold)’ ได้ประกาศนำบริการ ‘สเตกกิ้ง’ กลับมาให้บริการอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม อัพโฮลด์เปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ สามารถใช้บริการ ‘สเตกกิ้ง’ ได้อีกครั้ง หลังจากหยุดให้บริการมานานกว่า 1 ปี ตั้งแต่ปี 2023 โดยผู้ใช้สามารถรับ ‘รางวัลสเตกกิ้ง’ จากสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด 19 รายการ ซึ่งรวมถึง อีเธอเรียม(ETH), คอสมอส(ATOM) และโพลกาดอท(DOT) ทั้งนี้ รางวัลจะถูกแจกจ่ายเป็นรายสัปดาห์
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) เริ่มมีแนวโน้มผ่อนคลายมาตรการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล โดยที่ผ่านมา SEC ได้ยุติข้อพิพาททางกฎหมายกับหลายบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับคริปโต เช่น คอยน์เบส และแสดงท่าทีที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมมากขึ้น
ไซมอน แม็คลาฟลิน(Simon McLoughlin) ซีอีโอของอัพโฮลด์กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา SEC ได้บังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดกับธุรกิจที่ให้บริการสเตกกิ้ง โดยอ้างว่าผู้ให้บริการไม่ได้ให้ข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินของลูกค้า ทำให้หลายแพลตฟอร์ม รวมถึงอัพโฮลด์ ต้องยุติการให้บริการ” ตัวอย่างเช่น ในปีที่แล้ว แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่าง ‘คราเคน(Kraken)’ ได้ตกลงจ่ายค่าปรับ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อระงับข้อพิพาทกับ SEC และยุติบริการสเตกกิ้งในสหรัฐฯ
แม็คลาฟลินกล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน แนวโน้มทางนโยบายของสหรัฐฯ เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มเข้าใจเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลและยอมรับมันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) เข้ารับตำแหน่งผู้นำฝ่ายดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของ SEC และมีแนวโน้มว่าพอล แอตกินส์(Paul Atkins) อาจได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน SEC คนต่อไป สิ่งนี้ส่งผลให้สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบมีทิศทางที่ดีขึ้น”
เขายังกล่าวว่า “สเตกกิ้งเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบบล็อกเชน ช่วยรักษาเสถียรภาพของเครือข่าย และผู้ใช้งานควรได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรม การกลับมาให้บริการในครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ และเป็นการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ”
การกลับมาเปิดบริการสเตกกิ้งของอัพโฮลด์ ไม่ใช่แค่การตัดสินใจของบริษัทเพียงรายเดียว แต่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้นในตลาดคริปโตของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของ SEC อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่ามาตรการเพิ่มเติมของ SEC ในอนาคตจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้อย่างไรต่อไป
ความคิดเห็น 0