ความเคลื่อนไหวของราคาอีเธอเรียม(ETH) กำลังได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อย โดยตลาดต่างจับตาว่าราคาจะสามารถเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี หรือจะเจอแรงขายกดดันอย่างรุนแรง ล่าสุด ปัญญาประดิษฐ์(AI) แชตบอทชั้นนำ 4 ราย ต่างออกมาคาดการณ์แนวโน้มของอีเธอเรียม ซึ่งให้ ‘น้ำหนักไปทางการปรับขึ้น’ มากกว่าการร่วงแรง
ราคาอีเธอเรียมในปัจจุบันอยู่ราว 3,100 ดอลลาร์ หรือประมาณ 457,000 บาท โดยนักลงทุนบางกลุ่มคาดว่า หากตลาดยังคงส่งแรงบวก อีเธอเรียมอาจแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ก่อนคริสต์มาส ขณะที่บางฝ่ายยังแสดงความกังวลต่อแรงขายกดดันที่อาจเกิดขึ้นได้
ChatGPT จากโอเพนเอไอ วิเคราะห์ว่าความเป็นไปได้ที่อีเธอเรียมจะอยู่ในช่วงราคา 3,200–3,600 ดอลลาร์ (ราว 472,000–531,000 บาท) ภายในวันที่ 25 ธันวาคม อยู่ที่ *45%* และมีโอกาสสูงถึง *25%* ที่จะพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ ขณะที่โอกาสที่ราคาจะร่วงต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ ถูกประเมินไว้เพียง *10%* เท่านั้น โดย ChatGPT อ้างอิงว่าช่วงไตรมาส 4 ของปี มักมีลักษณะเป็น “ขาขึ้น” สำหรับตลาดคริปโต และความผันผวนช่วงที่ผ่านมาได้ลดช่องความเสี่ยงของการร่วงอย่างรุนแรงในระยะสั้น
ขยายความในมุมเดียวกัน Grok แชตบอทจาก 'X' (แพลตฟอร์มชื่อเดิมคือ Twitter) ระบุว่า การที่อีเธอเรียมจะหล่นต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์โดยไม่มีเหตุการณ์ ‘แบล็กสวอน’ หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดรุนแรง เช่น ภัยเศรษฐกิจระดับโลกหรือแนวโน้มทางกฎหมายที่รุนแรง เป็นสิ่งที่ *เป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง* โดย Grok มองว่าความเป็นไปได้ที่จะพุ่งสู่ระดับ 4,000 ดอลลาร์ยังมีโอกาสมากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของบิตคอยน์(BTC) และความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วงสิ้นปี
ด้าน Perplexity ประเมินว่า ตลาดมีโมเมนตัมขาขึ้นอยู่ แต่ยังเตือน *ควรระวังแนวรับแถว 2,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 413,000 บาท)* เนื่องจากหากไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้ อาจเกิดการเทขายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความน่าจะเป็นที่ราคาจะร่วงสู่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ จะต้องมีปัจจัยลบขนาดใหญ่ เช่น การล้มละลายของแพลตฟอร์มคริปโตขนาดใหญ่ ซึ่งในตอนนี้ *ยังไม่อยู่ในภาพความเป็นไปได้*
ขณะที่แชตบอท Gemini จากกูเกิล เพิ่มมุมมองที่น่าสนใจ โดยระบุว่าสำหรับอีเธอเรียม การพุ่งไปแตะ 4,000 ดอลลาร์ยังขึ้นอยู่กับสามปัจจัยสำคัญ ได้แก่ *แรงซื้อจากความกลัวตกรถ (FOMO)*, *แรงบวกจากปรากฏการณ์ 'แรลลีปลายปี'* และ *โอกาสในการอนุมัติ ETF ประเภทสปอตของอีเธอเรียม* ส่วนโอกาสที่ราคาจะหล่นถึง 2,000 ดอลลาร์นั้นยังมีอยู่ที่ประมาณ *29%* แต่เป็นความเสี่ยง ‘ตามเงื่อนไข’ มากกว่าความเป็นไปได้แน่นอน
*ความคิดเห็น:* สิ่งที่ทั้ง ChatGPT, Grok, Perplexity และ Gemini สะท้อนออกมาอย่างสอดคล้องกันคือ *กรณีราคาร่วงรุนแรงต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์* เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีโอกาสในสภาพปัจจุบัน ขณะที่ ‘โอกาสปรับขึ้น’ แม้ยังมีปัจจัยเสี่ยง ต้องอาศัยโมเมนตัมหลายด้าน แต่ถูกมองว่า *มีฐานความเป็นไปได้ที่แน่นหนากว่า*
โดยสรุป แนวโน้มราคาของอีเธอเรียมช่วงปลายปี 2024 ถูกคั่นกลางระหว่างความหวังที่จะทะลุ 4,000 ดอลลาร์ และความกังวลต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเสียงของ AI ทั้ง 4 แหล่ง สัญญาณที่ชัดเจนคือ ‘ตลาดมีโอกาสไปต่อ มากกว่าถดถอยอย่างหนัก’—แต่ก็ยังต้องระวังปัจจัยภายนอกที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ในทันที
ความคิดเห็น 0