ปีเตอร์ แบรนดต์(Peter Brandt) เทรดเดอร์ผู้มากประสบการณ์ ระบุว่า กฎหมาย Clarity Act ของสหรัฐที่อาจผ่านสภาคองเกรสในช่วงเดือนมกราคม มีแนวโน้มจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคา บิตคอยน์(BTC) อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่ “เหตุการณ์เปลี่ยนโลก” แม้จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตก็ตาม
เมื่อวันที่ 8 (เวลาท้องถิ่น) จากบทสัมภาษณ์กับ Cointelegraph แบรนดต์กล่าวว่า “เป็นพัฒนาการที่ควรเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะมากำหนดคุณค่าของคริปโตใหม่อีกครั้ง” โดยเขาให้เหตุผลว่าการที่สินทรัพย์ถูกกำกับดูแลไม่ใช่เรื่องพิเศษ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่นักลงทุนหัวแข็งมักไม่ต้องการกฎควบคุมแต่แรก
ความเห็นของแบรนดต์มีขึ้นหลังจาก เดวิด แซกส์(David Sacks) หัวหน้าฝ่ายนโยบายคริปโตและ AI ของทำเนียบขาวออกมากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “เรากำลังใกล้เข้ามามากกว่าที่เคย กับการผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตครั้งประวัติศาสตร์” พร้อมระบุว่าการผลักดันร่าง Clarity Act จะเดินหน้าต่อในเดือนมกราคม
ขณะที่บางฝ่ายมองว่าผลกระทบของกฎหมายนี้ได้ถูกสะท้อนในราคาตลาดไปแล้ว จอห์น โกลเวอร์(John Glover) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Ledn เห็นว่าการประกาศใช้ Clarity Act จะไม่ส่งผลต่อราคาโดยทันที แต่ถือเป็นพัฒนาการที่ช่วยสนับสนุนให้ บิตคอยน์(BTC) และ อีเธอเรียม(ETH) เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีการยอมรับในวงกว้างมากขึ้นในระยะยาว
“เส้นทางราคาจะยังเป็นขาขึ้นเมื่อมองจากภาพรวมในระยะยาว แม้จะไม่ได้เกิดแรงกระเพื่อมในวันแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้” โกลเวอร์กล่าวกับ Cointelegraph
ด้านแบรนดต์ยืนยันว่า บิตคอยน์ ยังคงอยู่ในช่วง *ตลาดหมี* และเตือนว่าอาจเห็นราคาปรับลงไปถึงระดับ 60,000 ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2026 ซึ่งจะสะท้อนการลดลงราว 31% จากราคาปัจจุบันที่ประมาณ 88,000 ดอลลาร์ (อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap)
แม้ว่าจะมองว่าการผ่านกฎหมายนี้อาจไม่กระตุ้นราคาทันที แต่แบรนดต์ยอมรับว่า Clarity Act อาจ “ลดข้อเสียที่เขาคาดไว้” ลงได้บ้างในแง่แนวโน้มระยะยาว
ในฝั่งของฝ่ายนิติบัญญัติ เซน. ซินเทีย ลัมมิส(Cynthia Lummis) จากรัฐไวโอมิง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลักดันการร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลภายในคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภา กล่าวเมื่อวันที่ 9 ว่า เธอต้องการผลักดันให้กฎหมายเดินหน้าภายในไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากเนื้อหาร่างกฎหมายมีการปรับแก้บ่อยครั้งระหว่างการเจรจาของทั้งสองพรรค ซึ่งทำให้ภาคอุตสาหกรรมเริ่มแสดงความกังวล
Clarity Act จึงถูกมองว่าเป็น “หมุดหมายสำคัญ” ของความพยายามในการจัดระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐ แม้ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะผลักดันราคา บิตคอยน์ ให้ทะยานกลับสู่จุดสูงสุดเดิมที่ 125,100 ดอลลาร์ในเร็ววัน
ความคิดเห็น 0