โซอาร์เชน(THORChain) โปรโตคอลสภาพคล่องแบบกระจายศูนย์ ได้รับความสนใจจากรายได้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเงินที่เกี่ยวข้องกับการแฮ็กของไบบิต(Bybit) มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ที่ถูกส่งผ่านโปรโตคอลดังกล่าว
เหตุการณ์แฮ็กไบบิตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และถูกบันทึกว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต บริษัทด้านความปลอดภัยบล็อกเชนระบุว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ อาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยพวกเขาใช้เครือข่ายต่าง ๆ ในการฟอกเงินที่ขโมยมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้โปรโตคอลแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ข้ามเชนอย่างโซอาร์เชนในการทำธุรกรรม
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว โซอาร์เชนสามารถประมวลผลปริมาณธุรกรรมรวมกว่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ และสร้างรายได้มากถึง 5.5 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงหลังจากการแฮ็กไม่นาน ปริมาณธุรกรรมของโปรโตคอลแตะระดับ 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียว และสร้างรายได้ 554,000 ดอลลาร์ภายในวันดังกล่าว
แม้จะมีตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่โซอาร์เชนก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมาย ความพยายามในการออกมาตรการป้องกันภายในโปรโตคอลถูกโหวตให้ไม่ผ่านเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และส่งผลให้ ‘พลูโต(Pluto)’ นักพัฒนาหลักของโปรเจกต์ประกาศลาออกทันที โดยเขาระบุว่า “จะไม่ร่วมงานกับโซอาร์เชนอีกต่อไป”
ข้อกังวลด้านความปลอดภัยถูกขยายความโดยนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังอย่างโยกิ(Yogi) เมื่อวันที่ 4 มีนาคม บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) โดยเขากล่าวว่า "โซอาร์เชนถูกใช้ในการฟอกเงินผิดกฎหมายมูลค่า 605 ล้านดอลลาร์ โดยไม่มีมาตรการยืนยันตัวตน(KYC)" พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่า โปรโตคอลอื่นสามารถหาวิธีบล็อกกระเป๋าเงินที่ไม่พึงประสงค์ได้โดยไม่ละทิ้งหลักการกระจายศูนย์ แต่โซอาร์เชนยังไม่ได้ดำเนินมาตรการดังกล่าว
ขณะที่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนเอลลิปติก(Elliptic) ได้เปิดเผยรายการที่อยู่กระเป๋าคริปโต 11,084 รายการที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการแฮ็กไบบิต พร้อมระบุว่าอาจมีการเปิดเผยรายการเพิ่มเติมในภายหลัง เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอของไบบิต กล่าวว่าปัจจุบันเงินที่ถูกแฮ็กไปมูลค่า 280 ล้านดอลลาร์ยังไม่สามารถติดตามได้
เหตุการณ์นี้ตอกย้ำประเด็นด้านความปลอดภัยและจริยธรรมของโปรโตคอลการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) ซึ่งทำให้ชุมชนคริปโตเริ่มเรียกร้องให้โซอาร์เชนและแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้ามเชนรายอื่น ๆ พิจารณาแนวทางในการป้องกันการเคลื่อนย้ายเงินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ความคิดเห็น 0