ชิบะอินุ(SHIB) ประกาศเปิดตัวแผนการชดเชยอย่างเป็นทางการสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแฮกระบบ ‘พลาสมา บริดจ์’ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายรวมกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 57.6 ล้านบาท แผนการใหม่นี้อยู่ภายใต้โปรแกรมที่ชื่อว่า ‘Shib Owes You’ (SOU) ซึ่งทีมผู้พัฒนา SHIB ระบุว่าจะใช้ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของชุมชนผู้ถือครองโทเคน
โปรแกรม SOU ใช้เทคโนโลยี NFT ซึ่งบันทึกอยู่บนบล็อกเชนของอีเธอเรียม(ETH) แทนการจดบันทึกด้วยไฟล์สเปรดชีตแบบเดิม ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับ NFT ที่สะท้อนจำนวนเงินที่สูญหาย โดย NFT ดังกล่าวสามารถใช้ยืนยันสิทธิ์การได้รับเงินคืนและติดตามสถานะของการชดเชยได้แบบเรียลไทม์ในลักษณะที่ ‘โปร่งใสและตรวจสอบได้’
จุดเด่นคือ NFT เหล่านี้สามารถ *โอนได้*, *แลกเปลี่ยนได้ในตลาด* หรือ *รวมและแยกสิทธิ์จากกระเป๋าหลายใบได้ตามความเหมาะสม* เพิ่มโอกาสในการจัดสรรและเพิ่มสภาพคล่องของการชดเชยได้อย่างยืดหยุ่น ความคิดเห็นจากนักพัฒนาเปิดเผยว่า นี่ไม่ใช่เพียงการมอบเงินคืน แต่เป็นการจัดตั้งระบบที่เชื่อถือได้และเปิดกว้างกว่าเดิม
คาล ไดรียา(Kaal Dhairya) หนึ่งในนักพัฒนาหลักของชิบาเรียม กล่าวว่าการมอบ NFT ครั้งนี้คือ “เครื่องมือพิสูจน์สิทธิ์ชดเชยแบบเข้ารหัสที่จะอยู่ถาวรบนบล็อกเชน” พร้อมยืนยันว่าโครงการภายใต้ระบบนิเวศของ SHIB ทุกโครงการ รวมถึงแบรนด์ในเครือจะเข้าร่วมใน “SOU พูลของรางวัล” เพื่อแสดงความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่แค่ในฐานะนักพัฒนาเท่านั้น
ในแง่ของความคืบหน้าด้านความปลอดภัย *พลาสมา บริดจ์* ซึ่งเคยถูกโจมตี ถูกยกระดับมาตรการด้านระบบแล้ว โดยสัญญาอัจฉริยะหลักถูกย้ายเป็นแบบฮาร์ดแวร์ และมีการเพิ่ม ‘ช่วงหยุดถอน’ นาน 7 วัน เพื่อป้องกันการถอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางทีมพัฒนาเชื่อว่าการยกระดับนี้จะช่วยป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ราคาของชิบะอินุ(SHIB) ยังคงอยู่ในภาวะซบเซา หลังจากมีข่าวเปิดตัว SOU โทเคน SHIB ร่วงลง 3% ภายในวันเดียว ขัดกับแนวโน้ม ‘แรลลีคริสต์มาส’ ของสินทรัพย์อื่น ๆ ข้อมูลในช่วง 30 วันที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าราคาลดลงรวม 16.9% นอกจากนี้ ทรัพย์สินรวมทั้งหมดในแพลตฟอร์ม Shibarium ซึ่งเคยอยู่ที่ราว 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังไม่สามารถฟื้นกลับมาได้
สัญญาณทางเทคนิคหลายตัวก็แสดงภาพไม่สดใสนัก ดัชนี ‘แซคกิน มันนี โฟลว์’ (CMF) อยู่ที่ระดับ -0.22 บ่งชี้ภาวะ ‘แรงขายนำ’ อย่างชัดเจน ขณะที่ RSI แบบสโตแคสติกก็เข้าสู่โซน ‘ซื้อมากเกินไป’ ซึ่งกดดันราคาต่อเนื่อง
*ความคิดเห็น* ของหลายฝ่ายมองว่า แม้ผลกระทบเชิงราคาอาจยังไม่เกิด แต่การเปิดเผยโปรแกรม SOU เป็นสัญญาณสำคัญด้านความโปร่งใสและความพยายามสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวของ SHIB ซึ่งน่าจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการฟื้นตัวของทั้งชุมชนและระบบนิเวศในอนาคต
ความคิดเห็น 0