การกู้ยืมโดยใช้บิตคอยน์(BTC) เป็นหลักประกันกำลังกลายเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมทางการเงิน ตามรายงานล่าสุดของ Tiger Research บริษัทต่างๆ เช่น Vield และ คอยน์เบส(Coinbase) กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินกู้ที่ใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกัน เพื่อให้ผู้ถือครองคริปโตสามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้ อย่างไรก็ตาม โมเดลสินเชื่อประเภทนี้ยังคงมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ซึ่งทำให้ต้องมีการบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง
การให้กู้ยืมโดยใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกัน ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงเงินสดได้โดยไม่ต้องขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง โดยเฉพาะในออสเตรเลียที่ Vield กำลังใช้โมเดลทางการเงินแบบไฮบริด เพื่อผลักดันให้บิตคอยน์ได้รับการยอมรับเป็นหลักประกันที่ถูกต้อง ปัจจุบันบริษัทสามารถให้สินเชื่อมูลค่ากว่า 35 ล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ ซึ่งแตกต่างจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่เน้นการใช้สินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน Vield ใช้วิธีการที่เป็นนวัตกรรมโดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัล
คอยน์เบสเองก็กำลังเข้าสู่ตลาดนี้ โดยใช้นวัตกรรมด้าน ‘การเงินไร้ศูนย์กลาง’ (DeFi) ตามรายงานของ Tiger Research คอยน์เบสได้พัฒนาบริการสินเชื่อโดยใช้โปรโตคอล Morpho เพื่อให้บริการกู้ยืมเงินสกุล USDC โดยใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้กู้ อย่างไรก็ตาม โมเดลนี้มีความเสี่ยงจากการแฮ็กสัญญาอัจฉริยะ รวมถึงปัญหาการบังคับขายหลักประกันหากมูลค่าทรัพย์สินลดลงกะทันหัน ผู้ขอสินเชื่อจึงต้องมีการบริหารความเสี่ยงและติดตามมูลค่าหลักประกันอย่างใกล้ชิด
ตลาดในเอเชียก็กำลังเริ่มให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อโดยใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกัน ญี่ปุ่นมีบริษัทอย่าง Fintertech ที่ให้บริการกู้ยืมเงินเยนและดอลลาร์ โดยใช้บิตคอยน์หรืออีเธอเรียม(ETH) เป็นหลักประกัน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากช่วยนักลงทุนลดภาระภาษีที่สูงของญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน ฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีนโยบายเป็นมิตรกับคริปโต ก็เริ่มเปิดรับการให้สินเชื่อประเภทนี้มากขึ้น
ถึงแม้ว่าตลาดจะขยายตัว แต่ความท้าทายหลักของสินเชื่อบิตคอยน์ยังคงเป็นเรื่องกฎระเบียบและความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา หน่วยงานกำกับดูแลกำลังเฝ้าจับตาดูว่าการใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกันจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินหรือไม่ อีกทั้งการร่วงลงของราคาคริปโตอาจนำไปสู่การบังคับขายหลักประกันเป็นวงกว้าง Tiger Research ชี้ให้เห็นว่าการสร้างกรอบกฎระเบียบที่ชัดเจน รวมถึงแนวทางบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้
นอกจากนี้ สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมก็กำลังให้ความสนใจในตลาดสินเชื่อบิตคอยน์ หากธนาคารสามารถสร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มคริปโตในด้านการปล่อยสินเชื่อ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความน่าเชื่อถือของตลาดนี้ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและความผันผวนของราคายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่อาจทำให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมลังเลที่จะเข้าร่วม
การกู้ยืมโดยใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกันกำลังกลายเป็นนวัตกรรมสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างระบบการเงินแบบดั้งเดิมกับอุตสาหกรรมคริปโต อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดนี้ยังคงต้องการการกำกับดูแลที่ชัดเจน และมาตรการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด เพื่อให้สามารถพัฒนาต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ความคิดเห็น 0