ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงกว่า 5% ภายใน 24 ชั่วโมง ลดลงแตะระดับ 88,100 ดอลลาร์ โดยการปรับฐานครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศนโยบายการสำรองบิตคอยน์ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวัง
เมื่อวันที่ 7 ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหาร เพื่อวางแผนสำรองบิตคอยน์ในระดับประเทศ อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อเพิ่ม แต่เป็นการนำบิตคอยน์ที่รัฐบาลยึดมาแล้วมาใช้แทน เดวิด แซกส์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลนโยบายคริปโตของรัฐบาลทรัมป์ อธิบายว่า “มาตรการนี้ไม่มีการใช้เงินภาษีเพิ่มเติม” อย่างไรก็ดี ตลาดกลับแสดงความผิดหวัง เนื่องจากไม่มีเงินทุนใหม่ไหลเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ร่วงหนัก
ในขณะเดียวกัน กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตยังเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนจำนวนมาก โดยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนได้ถอนเงินออกไปกว่า 3.87 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.64 ล้านล้านวอน โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีเงินไหลออกถึง 1.14 พันล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว ทำให้บรรยากาศในตลาด ETF ยังคงตึงเครียด
ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค บิตคอยน์กำลังพยายามยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (EMA) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 85,550 ดอลลาร์ หากสามารถรักษาระดับนี้ได้ ราคาอาจฟื้นกลับไปที่ 92,800 ดอลลาร์ แต่หากแนวรับนี้พังลง บิตคอยน์อาจปรับตัวลงต่อไปที่ 81,500 ดอลลาร์ หรือแม้กระทั่ง 78,200 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่านโยบายของทรัมป์อาจส่งผลดีต่อบิตคอยน์ในระยะยาว เนื่องจากอาจช่วยเพิ่มความชัดเจนด้านกฎระเบียบและกระตุ้นให้เกิดการยอมรับในระดับสถาบันมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0