ประธานาธิบดีทรัมป์ได้จุดประกายการพุ่งขึ้นของตลาดคริปโตอีกครั้งหลังจากกล่าวถึง ‘FIFA Coin’ ในงานประชุมคริปโตที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งส่งผลให้ราคาของโทเคนที่มีชื่อเดียวกันพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล
ในงานดังกล่าว จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า ได้เปิดเผยว่าฟีฟ่ากำลังพิจารณาการใช้คริปโต โดยกล่าวว่า “FIFA Coin อาจเปิดศักราชใหม่ให้กับอุตสาหกรรมฟุตบอล” ขณะที่ทรัมป์ได้แสดงความคิดเห็นเชิงหยอกล้อว่า “โทเคนนั้นอาจมีค่ามากกว่าฟีฟ่าเองเสียอีก” หลังจากคำพูดดังกล่าว ราคาของ ‘FIFA Coin (FIFA)’ พุ่งขึ้นไปกว่า 142,000% ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง และมีมูลค่าตลาดแตะ 3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 43.8 ล้านบาท)
โทเคนดังกล่าวถูกซื้อขายในตลาดกระจายอำนาจอย่างยูนิสวอป โดยมีปริมาณการซื้อขายรายวันสูงถึง 650,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.5 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม FIFA Coin ไม่มีความเกี่ยวข้องกับฟีฟ่าแต่อย่างใด และนับเป็น ‘มีมโทเคน’ ที่ไม่ได้รับการรับรอง ผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลจึงเตือนให้นักลงทุนระมัดระวัง เนื่องจากตลาดคริปโตมักมีการสร้างโทเคนเก็งกำไรโดยใช้ชื่อบุคคลหรือเหตุการณ์สำคัญ และอาจเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นเครื่องมือฉ้อโกง
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ ควรเป็นผู้นำระดับโลกในด้านคริปโต และวิจารณ์ว่ากฎระเบียบของรัฐบาลไบเดนเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรม เขายังเสริมว่า “เราจะไม่ยอมให้มีการสกัดกั้นอีกต่อไป” พร้อมเผยแผนให้รัฐบาลสหรัฐฯ เก็บบิตคอยน์(BTC) ที่ถูกยึดไว้เป็น ‘ทุนสำรองเชิงกลยุทธ์’
ทั้งนี้ ฟีฟ่ากำลังเตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2026 ซึ่งจะมีเจ้าภาพร่วม ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐฯ โดยมี 48 ทีมเข้าร่วม และแข่งขันรวม 104 นัด ซึ่งนับเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ คำพูดของประธานฟีฟ่าเกี่ยวกับการใช้คริปโตจึงอาจเป็นสัญญาณว่าอุตสาหกรรมกีฬาและสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังมีแนวโน้มเชื่อมโยงกันมากขึ้น
ความคิดเห็น 0