การประชุม 'Crypto Summit' ที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาวได้รับกระแสตอบรับที่หลากหลายจากอุตสาหกรรมคริปโต
เมื่อวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) คริส มาร์ซาเลก ซีอีโอของคริปโทดอตคอม(Crypto.com) กล่าวถึงการประชุมครั้งนี้ว่าเป็น "วันประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในทำเนียบขาว" พร้อมแสดงมุมมองในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ชุมชนบิตคอยน์(BTC) กลับมีความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยบางกลุ่มมองว่าเนื้อหาของการประชุมนั้นยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ บิตคอยน์แมกซีมาลิสต์บางรายยังวิจารณ์ว่าผู้เข้าร่วมประชุมมีแนวโน้มสนับสนุนการกำกับดูแลของรัฐบาล
ในทางกลับกัน กลุ่มนักลงทุนสถาบันและบริษัทจัดการสินทรัพย์มองว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไคล์ ซามานี หุ้นส่วนผู้จัดการของมัลติคอยน์แคปิทัล(Multicoin Capital) ให้ความเห็นว่า "เราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และกำลังเข้าสู่ยุคที่เราสามารถเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบายคริปโตระดับโลก"
ทรัมป์ใช้เวทีนี้เพื่อส่งสัญญาณว่าคริปโตจะกลายเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ เขากล่าวถึงความตั้งใจในการผลักดันนวัตกรรมบล็อกเชนและยืนยันว่าจะยกเลิกนโยบายต่อต้านคริปโตของรัฐบาลก่อนหน้านี้ ในประเด็นนี้ คริส มาร์ซาเลก ซีอีโอของคริปโทดอตคอม ให้ความเห็นว่า "ทรัมป์ได้ยกเลิก 'Operation Chokepoint 2.0' แล้ว" และแสดงการสนับสนุนต่อแนวทางดังกล่าว
หลังจากการประชุมไม่นาน สำนักงานควบคุมเงินตราของสหรัฐฯ (OCC) ได้ออกประกาศผ่อนปรนข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมคริปโตของธนาคาร โดยยืนยันว่าธนาคารในสหรัฐฯ สามารถให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ และเข้าร่วมเครือข่ายบล็อกเชนได้ ภายใต้นโยบายใหม่นี้ ทำให้บริษัทคริปโตสามารถเข้าถึงระบบการเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น
วงการคริปโตมองว่าการประชุมครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลว่ายังไม่มีรายละเอียดของกฎระเบียบที่ชัดเจน โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะต้องมีการประกาศนโยบายเพิ่มเติมในอนาคต
ความคิดเห็น 0